ค่าฝุ่น PM2.5 ในประเทศไทยยังคงมีแนวโน้มสูงในหลายพื้นที่ หลังจากที่ กรมอนามัย และ GISTDA เปิดเผยการเฝ้าระวังและสื่อสารแจ้งเตือนประชาชนล่าสุดจากการตรวจสอบสถานการณ์ฝุ่นละอองในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยใช้แอปพลิเคชัน "เช็คฝุ่น" ที่ GISTDA พัฒนาขึ้นด้วยการนำข้อมูลจากดาวเทียมมาใช้ในการติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง
ในภาพรวมของประเทศ มีค่า PM2.5 สูงขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือเกือบทั้งหมดมีค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีส้ม (เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ) และสีแดง (ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ) ทั้งยัง พบว่า จะมีแนวโน้มสูงขึ้นอีก
ทั้งนี้ ได้มีการคาดการณ์สถานการณ์ PM2.5 ในช่วงระหว่างวันที่ 1 - 7 มีนาคม 2566 นี้หลายพื้นที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น คือ ในพื้นที่ภาคเหนือ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
ปัจจัยหลักที่ทำให้ค่า PM2.5 สูงขึ้น มาจากพื้นที่เผาไหม้หรือจุดความร้อนเพิ่มสูงขึ้นกว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับจำนวนที่ตรวจพบจากดาวเทียม ซูโอมิเอ็นพีพี
ทั้งนี้ กรมอนามัยให้ความสำคัญกับการดูแลและป้องกันสุขภาพของประชาชน เนื่องจากเมื่อรับสัมผัส PM2.5 เข้าสู่ร่างกายจะก่อให้เกิดอาการตั้งแต่อาการเล็กน้อยจนถึงการเจ็บป่วยต่าง ๆ ได้แก่
โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้ป่วยโรคหอบหืด ผู้สูงอายุ อาจมีอาการกำเริบและเสี่ยงที่จะมีอาการทรุดหนักได้
ขอแนะนำให้ประชาชนตรวจเช็กค่าฝุ่นและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจาก PM2.5
1.กรณีค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีส้ม หรือมีค่า 51 – 90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ประชาชนทั่วไป
ผู้มีโรคประจำตัว
2.กรณีค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีแดง หรือ มีค่า 91 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรขึ้นไป
ประชาชนทั่วไป
กลุ่มเสี่ยง
ประชาชนควรเฝ้าระวังตนเองด้วยการประเมินอาการจากการรับสัมผัส PM2.5 พร้อมรับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพเบื้องต้นได้ที่เว็บไซต์ "4HealthPM2.5" หรือ เว็บไซต์ "คลินิกมลพิษออนไลน์" และหากมีอาการรุนแรง เช่น แน่นหน้าอก หายใจลำบาก เหนื่อยง่าย หายใจมีเสียงหวีดให้รีบไปพบแพทย์