โลกจำเป็นต้องทำความรู้จัก XBB.1.5 เชื้อ โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่กำลังระบาดหนักจนกลายมาเป็นสายพันธุ์หลักในหมู่ผู้ติดเชื้อโควิดในสหรัฐอเมริกา ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เผยแพร่ข้อมูลประเมินความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของ XBB.1.5 ล่าสุด มีรายละเอียดน่าสนใจ ดังนี้
1.ความรวดเร็วของการแพร่ระบาด
ล่าสุด นับตั้งแต่ 22 ตุลาคม 2565 ถึง 11 มกราคม 2566 มีรายงานการตรวจเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 พบทั่วโลกใน 38 ประเทศ โดยประเทศที่ส่งรายงานการตรวจพบมาก 3 อันดับแรกคือ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และเดนมาร์ก
ที่น่าจับตาคือ อัตราการขยายตัวของการระบาดในสหรัฐอเมริกานั้นสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากสัปดาห์ละ 1% (ณ สัปดาห์ที่ 47) เพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 8% (ณ สัปดาห์ที่ 50) ภายใน 3 สัปดาห์เท่านั้น โดยมีการแพร่ระบาดมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (ซีดีซี) ประมาณการว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์ XBB และ XBB.1.5 เป็นสาเหตุของโรคโควิด-19 ในสหรัฐคิดเป็น 44.1% นับจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. เพิ่มจากช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านั้นซึ่งอยู่ที่ 25.9%
มาเรีย แวน เคอร์โคฟ นักระบาดวิทยาอาวุโสของ WHO กล่าวว่า เชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 เป็นเชื้อที่ระบาดเร็วที่สุดในขณะนี้ เนื่องจากมีการกลายพันธุ์สูง ทำให้เชื้อเข้าไปเกาะติดกับเซลล์และแบ่งตัวได้ง่ายยิ่งขึ้น
2. XBB.1.5 มาจากไหน
สายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 นี้ เป็นลูกหลานในตระกูล XBB ซึ่งข้อมูลปัจจุบันชี้ชัดว่า ดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากที่สุดในทุกสายพันธุ์ของโควิด-19 ที่เคยมีมา โดย XBB.1.5 นั้นดื้อเทียบเท่ากับสายพันธุ์ XBB.1
ทั้งนี้ XBB.1.5 เป็นไวรัสสายพันธุ์ย่อยของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งเป็นเชื้อโคโรนาไวรัสที่ระบาดมากที่สุดในโลก ณ ขณะนี้ และเป็นสายพันธุ์ย่อยของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ XBB ที่ตรวจพบครั้งแรกเมื่อเดือนต.ค. 2565 โดยไวรัสสายพันธุ์ XBB เป็นการกลายพันธุ์จากการรวมตัวกันของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ย่อยโอมิครอน 2 สายพันธุ์
3.ความรุนแรงเมื่อติดเชื้อ
ในแง่ความรุนแรงของโรคนั้น ยังไม่มีข้อมูลยืนยันชัดเจนว่าจะรุนแรงกว่าโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยอื่นๆ ที่ระบาดอยู่หรือไม่ “ยังไม่มีตัวบ่งชี้ว่าระดับความรุนแรงของไวรัสจะเปลี่ยนไป แต่ความเร็วของการระบาดที่เพิ่มขึ้นเป็นสิ่งที่น่ากังวล” รายงานของ WHO ระบุ
4. ไม่มีหลักฐานว่าทำให้เสียชีวิตมากกว่าสายพันธุ์อื่น
แวน เคอร์โคฟ นักระบาดวิทยาอาวุโสของ WHO กล่าวว่า อาจมีการระบาดระลอกใหม่ ๆ ทั่วโลก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า จะมีการเสียชีวิตระลอกใหม่เกิดขึ้น เนื่องจากหลายประเทศมีการฉีดวัคซีนและการบำบัดรักษาที่ดีขึ้นเพื่อรับมือการระบาดของโรคโควิด-19
WHO ยังไม่สามารถระบุได้ว่า การที่มีผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นในพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ เป็นเพราะเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ (XBB.1.5) โดยเฉพาะ เนื่องจากมีการระบาดของเชื้อไวรัสอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอยู่เช่นกัน
ด้านนักไวรัสวิทยาอย่างศาสตราจารย์แอนดริว พอลลาร์ด ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยวัคซีน Oxford Vaccine Group กล่าวว่า ยังไม่มีเหตุผลให้ต้องกังวลว่า เชื้อไวรัส XBB.1.5 จะรุนแรงกว่าเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ยังคงกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง
5.อนามัยโลกรับมือโควิดสายพันธุ์นี้อย่างไร
WHO ประเมินว่า สายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 นี้มีแนวโน้มที่จะระบาดมากขึ้นทั่วโลกได้ จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวัง ติดตามอย่างใกล้ชิด ภูมิภาคที่มีการขยายตัวของการระบาดมาก คือในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป แต่ทวีปอื่นๆ ก็มีการตรวจพบเพิ่มขึ้นรวมทั้งในแอฟริกา แม้ยังไม่มากนัก
คณะที่ปรึกษาด้านวิชาการของ WHO เกี่ยวกับวิวัฒนาการของไวรัส กำลังประเมินความเสี่ยงของเชื้อไวรัส XBB.1.5 อยู่ โดยศาสตราจารย์ทูลิโอ เดอ โอลิเวรา หนึ่งในคณะที่ปรึกษา กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้ “ซับซ้อน” โดยเฉพาะหลังจากจีนผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์เมื่อเดือนที่แล้ว (ธ.ค.2565)
อย่างไรก็ตาม WHO กำลังติดตามความรุนแรงของเชื้อไวรัส XBB.1.5 อย่างใกล้ชิด โดยใช้ทั้งข้อมูลที่ศึกษาในห้องปฏิบัติการและข้อมูลของสถานการณ์การระบาดจริง ในการพิจารณาหาทางรับมือและป้องกัน