โควิด19 ยังคงแพร่ระบาดอย่างหนักในหลายประเทศ ประเทศไทยเองก็เช่นเดียวกัน
วัคซีนต้านโควิดจึงเป็นสิ่งจำเป็น แม้ว่าจะไม่ได้ช่วยป้องกันการติดเชื้อ แต่สามารถช่วยลดอาการป่วย รวมถึงการเข้าโรงพยาบาล และการเสียชีวิตได้
อย่างไรก็ดี ประเด็นที่สำคัญก็คือควรฉีดจำนวนกี่เข็มถึงจะเพียงพอ
ล่าสุดศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า
โควิด 19 เราให้วัคซีน เกือบ 2 ปีแล้ว
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ชัดเจนอย่างยิ่ง วัคซีนสามารถลดความรุนแรงของโรค
ลดการป่วยตายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้
ประสิทธิภาพของวัคซีนจะเกิดขึ้น จะต้องได้วัคซีนอย่างน้อย 3 เข็มขึ้นไป
และเมื่อกาลเวลายิ่งห่าง เข็มที่ 4 จึงมีความจำเป็น เพราะระดับภูมิต้านทานลดต่ำตามกาลเวลา
ขณะนี้เราให้วัคซีนไปประมาณ 150 กว่าล้านโดส และยังมีจำนวนมาก ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบ 3 เข็ม
ในทางปฏิบัติไม่ต้องคำนึงถึงผู้ที่เคยติดเชื้อมาก่อนหรือไม่ ขอให้ ทุกคนควรได้รับวัคซีนอย่างน้อย 3 เข็ม
ในผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอเปราะบาง เช่นนอนติดเตียง สูงอายุมากๆ มีโรคประจำตัวเรื้อรัง โรคไต โรคมะเร็ง โรคปอดโรคหัวใจ หรือกินยากดภูมิต้านทาน
ควรได้รับวัคซีนต่อไป จะเป็นเข็ม 4 หรือเข็ม 5 ก็ได้ เพื่อรักษาระดับภูมิต้านทานที่ลดลง ป้องกันความรุนแรงของโรค
ในคนที่แข็งแรงดีเช่นเด็กหนุ่มสาว จะฉีด 3 เข็มก็ไม่ว่ากัน
จากการศึกษาในสถานการณ์จริงที่เชียงใหม่ และหลายสถานที่ มีข้อมูลชัดเจนอัตราการเสียชีวิตขึ้นอยู่กับจำนวนเข็มของวัคซีนที่ฉีด
ในผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 4 เข็ม แทบจะไม่มีผู้ที่เสียชีวิตเลย ตรงข้ามผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ หรือมีอาการหนัก จะเป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน หรือได้รับวัคซีนไม่ครบ 3 เข็ม
ในกรณีที่ร่างกายอ่อนแอมากๆ และหรือกินยากดภูมิต้านทาน ภูมิต้านทานสำเร็จรูป LABB ก็มีให้ใช้ในการใช้ป้องกันโรคหรือรักษา โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ
ทั้งที่ค่ายาแพงมาก ขวดละประมาณ 30,000 บาท ถ้าใช้รักษาต้องใช้ถึง 2 ขวด ทางกระทรวงสาธารณสุขจัดให้ฟรีอยู่แล้วในผู้มีข้อบ่งชี้ดังกล่าว
ชีวิตที่ต้องเดินหน้าไปกับโรคโควิด ก็ต้องรู้จักปกป้องตนเองไม่ให้เกิดอันตรายร้ายแรง และเป็นภาระกับระบบสาธารณสุข