พญ.เต็มหทัย นาคเทวัญ แพทย์เฉพาะทางด้านจิตเวชศาสตร์ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพจิต โรงพยาบาลนวเวช ได้อธิบายถึงอาการของโรคซึมเศร้า สาเหตุการเกิดโรค และวิธีการรักษา เพื่อหาแนวทางการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ซึ่งปัจจุบัน เราได้ยินคนพูดถึง “โรคซึมเศร้า” กันมากขึ้น แต่สาเหตุหรือปัจจัยใดที่เป็นตัวกระตุ้นอารมณ์ความเศร้าที่มีอยู่ในตัวทุกคนอยู่แล้วให้กลายเป็นอาการของโรคซึมเศร้าขึ้นได้
- อาการเบื้องต้นของ โรคซึมเศร้า
: อารมณ์เศร้าเป็นอารมณ์พื้นฐานหนึ่งในหลายอารมณ์ที่ทุกคนรู้จักและเคยมีประสบการณ์ เกิดขึ้นตามปัจจัยกระตุ้นต่างๆ และอารมณ์นั้นก็เกิดขึ้นได้ หายได้ แต่หากอารมณ์เศร้าเกิดขึ้นอยู่นานช่วงระยะเวลาหนึ่ง และไม่ดีขึ้น อีกทั้งยังมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย จนรบกวนการใช้ชีวิตประจําวันด้านต่างๆ นั่นอาจหมายถึง โรคซึมเศร้า
หากมีอาการต่อไปนี้ 5 อาการ โดยต้องมีอาการข้อ 1 หรือ 2 อย่างน้อย 1 ข้อ และต้องมีอาการเป็นอยู่นาน 2 สัปดาห์ขึ้นไป
- อารมณ์ซึมเศร้า/หดหู่/เบื่อ แทบทั้งวัน
- ความชอบความสนใจในกิจกรรมต่างๆ ลดลงมาก
- น้ำหนักลดหรือเพิ่มมากกว่า 5% ต่อเดือน หรือมีอาการเบื่ออาหาร/รับประทานอาหารมากผิดปกติ
- นอนไม่หลับ หรือ หลับมากเกินไป
- เชื่องช้าลง หรือ กระวนกระวายอยู่ไม่สุข
- อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
- สมาธิลดลง หรือ ตัดสินใจลําบาก
- รู้สึกไร้ค่า
- คิดเรื่องการตาย หรือ อยากตาย
- สาเหตุที่มาของโรคซึมเศร้า
: สาเหตุของโรคซึมเศร้าประกอบด้วยหลายปัจจัย ซึ่งมีปัจจัยสําคัญหลักๆ ดังนี้
- สารเคมีในสมอง ความผิดปกติของการสร้างสารเคมีในสมองทําให้เกิดการปรับเปลี่ยนของระดับปริมาณสารดังกล่าว โดยมีสารที่สําคัญ เช่น serotonin/ dopamine/ norepinephrine มีปริมาณลดต่ำลง รวมทั้งอาจมีความผิดปกติของเซลล์ตัวรับสารเคมีเหล่านี้ในสมองข้างต้นอีกด้วย
- พัฒนาการของจิตใจ การเลี้ยงดู การเติบโตในวัยเด็ก และ สถานการณ์สภาพแวดล้อมต่างๆ ที่พบเจอในแต่ละช่วงวัย ล้วนส่งผลต่อสภาพจิตใจ ก่อให้เกิดลักษณะนิสัยหรือแนวความคิดของแต่ละบุคคล ที่มีอิทธิพลในการดําเนินชีวิตและการดูแลสุขภาพใจ
- พันธุกรรม การศึกษาถึงระดับยีนส์และโครโมโซมพบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคซึมเศร้า โดยเฉพาะในกรณีของผู้ที่มีอาการเป็นซ้ำหลายๆ ครั้ง
- ยาต้านเศร้า: การรักษาหลักที่สําคัญของโรคซึมเศร้า คือ การรักษาด้วยยาต้านเศร้า เนื่องจากยาต้านเศร้าจะออกฤทธิ์โดยการไปปรับสมดุลของสารเคมีในสมอง ทําให้อาการต่างๆ ดีขึ้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นในระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์
- การพูดคุยกับจิตแพทย์/นักจิตบําบัด: การพูดคุยเปรียบได้กับกระจกที่ช่วยสะท้อน เพื่อให้เกิดความตระหนักหรือเข้าใจตนเองในแง่มุมที่หลากหลายขึ้น ช่วยให้มองเห็นปัญหาต่างๆ ในมุมมองใหม่ และแนวทางในการปรับตัว รวมถึงการดูแลจิตใจให้ผ่อนคลายยิ่งขึ้น
โรคซึมเศร้า ไม่ได้เกิดจากความอ่อนแอ คิดมาก หรือหนีปัญหา แต่เป็นโรคที่ควรได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม เมื่ออาการดีขึ้น ก็จะสามารถกลับมามีศักยภาพในการใช้ชีวิตได้ตามปกติ อีกทั้งความเข้าใจต่อโรคทั้งจากผู้ป่วยและบุคคลใกล้ชิดก็เป็นสิ่งที่จําเป็น เพื่อที่จะช่วยกันสร้างบรรยากาศของความสุขและสุขภาพจิตใจ ที่ดี