ข่าวดี! ญี่ปุ่นเปิดรับคนไทยฉีดวัคซีนโควิดครบ 3 เข็มทุกชนิดเข้าประเทศ

06 ต.ค. 2565 | 08:20 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ต.ค. 2565 | 15:20 น.
3.0 k

ข่าวดี! ญี่ปุ่นเปิดรับคนไทยฉีดวัคซีนโควิดครบ 3 เข็มทุกชนิดเข้าประเทศ หลังผ่อนคลายมาตรการมาเป็นลำดับ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

 

ข่าวดี !! ญี่ปุ่นยอมรับคนไทยที่ฉีดวัคซีนทุกชนิดครบ 3 เข็ม ไม่ว่าเป็นยี่ห้อใด เดินทางเข้าประเทศได้แล้ว

 

จากที่ทางการญี่ปุ่น ได้มีมาตรการเข้ม เรื่องนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าญี่ปุ่นในสถานการณ์โควิดระบาด

 

และได้มีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆมาเป็นลำดับ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการมีเงินรายได้เข้าประเทศจากการท่องเที่ยว
จนสถานการณ์ล่าสุด ซึ่งจะมีผลในวันที่ 11 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไปนั้น มีข้อมูลที่สำคัญดังนี้

 

  • ประเทศที่ไม่ต้องใช้วีซ่าในการเดินทางท่องเที่ยวเข้าประเทศญี่ปุ่น มี 68 ประเทศ รวมประเทศไทยด้วย
     
  • ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อเดียวกัน หรือเป็นสูตรไขว้ ก็สามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้

 

  • ชนิดของวัคซีนเดิมคือ วัคซีนทุกชนิดที่องค์การอนามัยโลกรับรองเช่น Pfizer Moderna AstraZeneca เป็นต้น แต่จะยกเว้นไม่นับวัคซีนเชื้อตายของจีน คือ Sinovac และ Sinopharm แต่ในครั้งนี้ญี่ปุ่นยอมรับวัคซีนเชื้อตายของจีนทั้ง 2 ชนิด

 

ญี่ปุ่นเปิดรับคนไทยฉีดวัคซีนโควิดครบ 3 เข็มทุกชนิดเข้าประเทศ

 

  • ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มดังกล่าว จะสามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ โดยที่ไม่ต้องแสดงผลตรวจพีซีอาร์เป็นลบก่อนเดินทางเข้าญี่ปุ่นไม่เกิน 72 ชั่วโมง

 

  • ในผู้ที่ไม่เข้าเกณฑ์ฉีดวัคซีนสามเข็มดังกล่าว จะต้องแสดงผลตรวจ PCR เป็นลบ ก่อนเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น

กล่าวโดยสรุป

 

มาตรการของญี่ปุ่นหลังวันที่ 11 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป จะมีผลกับทุกประเทศทั่วโลก และส่งผลให้คนไทยซึ่งฉีดวัคซีนทุกชนิด ได้แก่ Sinovac Sinopharm Pfizer Moderna และ AstraZeneca

 

สามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้ เมื่อฉีดสามเข็ม ไม่ว่าจะฉีดยี่ห้อใดมาก็ตาม

 

นับเป็นความสะดวกสำหรับผู้ที่จะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น หลังวันที่ 11 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป

 

ทั้งนี้ประเทศญี่ปุ่นมีจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 9 ของโลกโดยมีผู้ติดเชื้อแล้ว 21.42 ล้านคน มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 41,193 คน และเสียชีวิตสะสมรวมทั้งสิ้น 45,157 คน