ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana ระบุว่า
อาจจะเป็นเพราะนวัตกรรมใหม่ หรือ ความเคยชิน ทำให้หลายๆสื่อเข้าใจว่า สเปรย์พ่นจมูกนี้เป็น "วัคซีน"
แต่ความเป็นจริงคือ สเปรย์นี้เป็นตัวช่วยปัองกันการติดเชื้อไวรัส
ทำงานโดยใช้แอนติบอดีที่สร้างขึ้นจากในแล็บแล้วฉีดพ่นในจมูกเพื่อให้แอนติบอดีนั้นช่วยจับไวรัสในกรณีที่มีความเสี่ยงติดเชื้อ
สังเกตคำว่า 6Hr บนกล่อง เป็นการระบุว่า แอนติบอดีที่พ่นแต่ละครั้งจะอยู่หรือมีฤทธิ์พอจับไวรัส 6 ชั่วโมง อยากป้องกันต่อต้องพ่นใหม่
ถ้าเป็นวัคซีน หลักการคือพ่นตัวส่งแอนติเจน หรือ โปรตีนของไวรัสให้ร่างกายเราเป็นคนสร้างแอนติบอดีเอง
โดยแอนติบอดีที่สร้างขึ้นจากร่างกายแบบนี้จะได้ปริมาณที่มากกว่าการฉีดพ่น
และอยู่กับร่างกายเป็นเดือนๆโดยไม่ต้องพ่นซ้ำบ่อยๆ ที่สำคัญคือ
ถ้ามีการพ่นซ้ำแบบถูกจังหวะเวลา (boosting) แอนติบอดีจากวัคซีนสามารถเปลี่ยน version ได้เอง
โดยกลไกของร่างกายที่เทคโนโลยีในแล็บยังเลียนแบบไม่ได้ ให้สามารถจับกับไวรัสได้แน่นขึ้น มีปริมาณมากและอยู่นานขึ้น
ดังนั้นอย่าเพิ่งสับสนว่าได้รับวัคซีนแล้วถ้าได้พ่นสเปรย์นี้นะครับ ยังไม่ใช่