7 มีนาคม 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ครั้งที่ 1/2568 ผ่านระบบออนไลน์ และมี นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการฯ นพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วม ประชุม
มีรายงานว่า ในการประชุมวันนี้มีวาระพิจารณาสืบเนื่อง คือ 1.การเว้นสถานที่หรือบริเวณห้ามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บริเวณสถานีรถไฟหรือในขบวนรถที่อยู่อยู่บนทางรถไฟ โดยผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย และ 2.(ร่าง) ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. … โดยฝ่ายเลขานุการ
ขณะที่ เรื่องพิจารณาใหม่ คือ (ร่าง) ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. … โดยฝ่ายเลขานุการ และแนวทางการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2568 โดยฝ่ายเลขานุการ
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 16.00 น.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นการประชุมวาระพิจารณาเรื่องสุดท้าย คือ การเว้นสถานที่หรือบริเวณห้ามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บริเวณสถานีรถไฟ หรือในขบวนรถที่อยู่บนทางรถไฟ นายสมศักดิ์ รมว.สธ. ได้ขอปิดการประชุมโดยไม่มีการลงมติในวาระใด ๆ ส่งผลให้การประชุมในครั้งนี้ต้องเลื่อนออกไปทั้งยังไม่มีกำหนดการประชุมใหม่
อย่างไรก็ดี ก่อนการประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันนี้มีภาคประชาชนกว่า 200 คนเดินทางมาเพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านมติของคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา พร้อมยื่น 4 ข้อเสนอถึง นายสมศักดิ์ รมว.สาธารณสุข และคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประกอบด้วย
1. เครือข่ายผิดหวังกับรัฐบาลและคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ที่มีจุดยืนสนับสนุนนายทุนน้ำเมามากจนละเลยการปกป้องคุ้มครองชีวิตประชาชน และหากเกิดความเสียหาย สูญเสียเพิ่มขึ้นจากการตัดสินใจทางนโยบายครั้งนี้ ควรตามมาด้วยความรับผิดชอบทางการเมืองของผู้มีอำนาจตัดสินใจด้วย
2. ขอคัดค้านการอนุญาตให้ขายสุราวันพระใหญ่ ในสถานบริการและสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการในพื้นที่ท่องเที่ยว เพราะนอกจากเป็นการเลือกปฏิบัติแล้วยัง ทำให้ยากในการบังคับใช้กฎหมาย
เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นแล้วในการขยายเวลาขายสุราถึง 04.00 น. ในพื้นที่นำร่อง ที่พบว่า การขอความร่วมมือไม่ขายให้คนเมา มีรถรับส่ง มีจุดพักรอ มีการตรวจวัดปริมาณสุรา ฯลฯ นั้น ไม่เป็นจริงเลยในทางปฏิบัติ
3.เครือข่ายยังหวังว่าคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะมีความรอบคอบเพียงพอที่จะถ่วงดุลปกปกป้อง คุ้มครองชีวิตประชาชนในการประชุมวันนี้ ทั้งนี้ เครือข่ายเห็นด้วยให้มีการศึกษา ทบทวนกฎหมาย และสามารถบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.ขอเรียกร้องผ่านไปยังรัฐบาล พิจารณาปกป้องคุ้มครองชีวิตประชาชนและนักท่องเที่ยวจากภัยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ด้วยการผลักดันปรับปรุงพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จราจรทางบก พ.ศ.2565 โดยเพิ่มโทษผู้ที่เมาแล้วขับจนเกิดผู้เสียชีวิต
พร้อมปรับปรุง พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509 นำสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการเข้ามาอยู่ในควบคุม นอกจากนั้นต้องแยกร้านนั่งดื่มและซื้อกลับให้ชัดเจน พร้อมตั้งกองทุนเยียวยาฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบ