สถิติน่าห่วง เด็กไทยอายุ 10-14 ปี ตั้งครรภ์พุ่ง เกินเกณฑ์ยูเอ็น
เจาะข้อมูลรายงานสังคมไทยไตรมาส 4/67 พบวัยรุ่นอายุ 10-14 ปี ตั้งครรภ์พุ่ง เกินกว่าเกณฑ์ที่องค์การสหประชาชาติกำหนด สาเหตุจากขาดความรู้-ถูกล่วงละเมิด ด้านสุขภาพจิตคนไทยดีขึ้น แต่โรคระบาดเพิ่ม 27.6%
รายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 4/2567 สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับ “สุขภาพและการเจ็บป่วย” โดยเฉพาะอัตราการคลอดและสุขภาพจิตของคนไทย ซึ่งมีสถิติที่น่าสนใจ
อัตราคลอดในวัยรุ่นยังน่าห่วง เกินเป้าหมายสหประชาชาติ
รายงานระบุว่า สถานการณ์อัตราการคลอดบุตรในวัยรุ่นไทยอายุ 10-14 ปี มีแนวโน้มน่าวิตกในปี 2567 โดยข้อมูลจาก DOH Dashboard ของกรมอนามัยระบุว่า อัตราคลอดในกลุ่มเด็กหญิงวัย 10-14 ปี อยู่ที่ 0.93 รายต่อประชากรพันคน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มีอัตรา 0.77 ต่อพันคน ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่องค์การสหประชาชาติกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 0.7 ต่อพันคน
ข้อมูลการขอรับคำปรึกษาผ่านสายด่วน 1663 แสดงให้เห็นว่า มีเด็กและวัยรุ่นอายุ 10-14 ปี โทรขอคำปรึกษาเรื่องการตั้งครรภ์ไม่พร้อมถึง 46,893 ราย ในปี 2567 หรือเฉลี่ยวันละ 128 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มีจำนวน 44,574 ราย
สาเหตุหลักของการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในกลุ่มนี้มาจาก:
- การขาดความรู้ความเข้าใจและไม่มีการป้องกันตนเองในการมีเพศสัมพันธ์
- การถูกล่วงละเมิดทางเพศ
รายงานระบุด้วยว่า การขอรับคำปรึกษาเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับวัยรุ่นที่ประสบปัญหา เพื่อการส่งต่อไปยังหน่วยบริการที่สามารถให้คำแนะนำและดูแลการตั้งครรภ์ รวมถึงให้ข้อมูลทางเลือกในการตั้งครรภ์ต่อหรือยุติการตั้งครรภ์สำหรับผู้ที่ไม่พร้อมหรือไม่ได้วางแผนครอบครัว
สุขภาพจิตคนไทยมีแนวโน้มดีขึ้น
ข้อมูลจากการประเมินสุขภาพจิตของคนไทย (Mental Health Check In: MHCI) ในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 พบว่า มีผู้เข้ารับการประเมินจำนวน 1.9 แสนราย
โดยสถานการณ์ด้านสุขภาพจิตโดยรวมมีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน:
- ผู้ที่เสี่ยงภาวะซึมเศร้า: ร้อยละ 5.3 ลดลงจากร้อยละ 6.5 ในช่วงเดียวกันของปี 2566
- ผู้ที่มีความเครียดสูง: ร้อยละ 4.8 ลดลงจากร้อยละ 5.1 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
- ผู้ที่เสี่ยงฆ่าตัวตาย: ร้อยละ 2.8 ลดลงจากร้อยละ 3.7 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
ภาพรวมทั้งปี 2567 คนไทยมีปัญหาสุขภาพจิตดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2566 โดยสัดส่วนผู้มีปัญหาสุขภาพจิตลดลงจากร้อยละ 29.8 เหลือร้อยละ 24.7 จากผู้เข้ารับการประเมินทั้งสิ้น 1.2 ล้านราย ทั้งนี้ ปัญหาที่พบมากที่สุดยังคงเป็นความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า ตามด้วยกลุ่มที่มีความเครียดสูง
สถานการณ์โรคเฝ้าระวังเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่
ในไตรมาส 4 ปี 2567 จำนวนผู้ป่วยด้วยโรคเฝ้าระวังโดยรวมเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ร้อยละ 27.6 หรือเพิ่มจาก 281,001 ราย เป็น 358,795 ราย โดยเฉพาะโรคติดต่อทางระบบหายใจ ได้แก่:
- โรคไข้หวัดใหญ่: จำนวน 209,734 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 50.9 (เพิ่มขึ้นถึง 1.5 เท่า)
- โรคปอดอักเสบ: จำนวน 110,585 ราย
นอกจากนี้ ยังพบการระบาดของโรคหัดเพิ่มขึ้นร้อยละ 470.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ และส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กอายุ 1-4 ปี ขณะที่จำนวนผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกลดลงร้อยละ 60.6 ต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสสองและสาม
ภาพรวมทั้งปี 2567 มีผู้ป่วยด้วยโรคเฝ้าระวังรวม 1,251,390 ราย คิดเป็นอัตราส่วน 1,893.9 รายต่อประชากรแสนคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.8 จากปี 2566 โดยโรคที่พบผู้ป่วยสูงที่สุดคือ ไข้หวัดใหญ่ มีจำนวน 650,931 ราย เพิ่มขึ้นกว่าปี 2566 ประมาณ 1.6 เท่า และกรมควบคุมโรคคาดการณ์ว่าในปี 2568 โรคไข้หวัดใหญ่มีแนวโน้มพบผู้ป่วยมากขึ้น
สถานการณ์โรค COVID-19 ยังคงต้องเฝ้าระวัง โดยในปี 2567 มีผู้ป่วยสะสม 769,200 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.8 จากปี 2566 ที่มีผู้ป่วยสะสม 652,868 ราย อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมในปี 2567 ลดลงเหลือ 222 ราย จาก 848 รายในปี 2566 เนื่องจากประชาชนมีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น และสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดในปัจจุบันมีความรุนแรงน้อยลง
ที่มา : รายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 4/2567