22 มกราคม 2568 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จัดพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อพัฒนาการแก้ไขฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติดในภารกิจกรมคุมประพฤติระหว่างกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม โดยมี นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ พร้อมด้วยสักขีพยานของทั้ง 2 หน่วยงานร่วมลงนาม
นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า การลงนามบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้เพื่อพัฒนาโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ติดยาเสพติดให้สามารถเข้ารับการพัฒนาพฤติกรรมของผู้กระทำผิดคดียาเสพติด
ที่ผ่านมา กรมฯ มีการดำเนินการร่วมบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดด้วยการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกตั้งแต่ปี 2565 และในปี 2567 จนถึงปัจจุบันได้มีการเข้าร่วมบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดกับกรมคุมประพฤติ โดยมีการร่วมบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดในกลุ่มสีเขียว 2,832 ราย
มีผู้ที่เข้ารับการบำบัดรักษาต่อเนื่อง 895 ราย ผู้ป่วยที่สิ้นสุดโปรแกรมการบำบัดรักษา 540 ราย และผู้ที่ได้รับคำแนะนำด้านการใช้ยาสมุนไพร 1,397 ราย ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ได้รับการบำบัดรักษา มีประสิทธิผลตอบสนองในการรักษาเป็นที่น่าพอใจ
สำหรับแนวทางในการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ด้วยการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกโดยใช้ตำรับยาสมุนไพรที่ช่วยในการลดอาการอยากยาและถอนพิษยาเสพติด ได้แก่ นวัตกรรมตำรับยาอดยาบ้า (ตำรับยาพัฒนา) หรือตำรับยาทำให้อดฝิ่น (ตำรับยาเดิม)
ร่วมกับการใช้สมุนไพรรักษาตามอาการในการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดกรณีกลุ่มยาสมุนไพรล้างพิษ เช่น ยารางจืด ยาย่านางแดง กลุ่มยาสมุนไพรปรับธาตุ เช่น ยาตรีผลา กลุ่มยาสมุนไพรบำรุง เช่น ยาขมิ้นชัน ยาหอมนวโกฐ ยาแก้ลมแก้เส้น (ลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย) ยาศุขไสยาศน์ (ช่วยให้นอนหลับ) ตำรับยาการุณย์โอสถ เป็นต้น
นอกจากการรักษาตามองค์ความรู้ทางการแพทย์แผนไทยทางกรมฯยังได้นำศาสตร์การแพทย์ทางเลือกมาบำบัดรักษาควบคู่กันเพื่อการฟื้นฟูและส่งเสริมสมรรถภาพร่างกายด้วยกิจกรรมบำบัด ได้แก่ สมาธิบำบัด SKT และการกดจุดสะท้อนฝ่าเท้า เป็นต้น ปัจจุบันได้มีการขยายงานบริการบำบัดยาเสพติด โดยความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตำรวจ/ทหาร กรมคุมประพฤติ (กระทรวงยุติธรรม) กรมสุขภาพจิต และสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร
ด้านพ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า กรมคุมประพฤติ มีภารกิจ ในด้านการแก้ไขฟื้นฟู ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นผู้ที่ศาลมีคำสั่งกำหนดเงื่อนไขเพื่อการคุมประพฤติมาใช้แทนการลงโทษจำคุก เพื่อให้ผู้กระทำผิดที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้รับการแก้ไขฟื้นฟูเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยเฉพาะในคดียาเสพติดซึ่งปัจจุบันมีจำนวนมากขึ้น
กรมคุมประพฤติได้มีการนำมาตรการต่าง ๆ มาใช้ในการปรับเปลี่ยนแก้ไข และสร้างทัศนคติ ความคิดและพฤติกรรมของผู้กระทำผิดรวมทั้งดำเนินการสงเคราะห์ด้านต่าง ๆ เพื่อให้ผู้กระทำผิดมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปในทางที่ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหายาเสพติดให้มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องอาศัยสรรพกำลังและทรัพยากรด้านต่างๆ แบบบูรณาการความร่วมมือจากหลายภาคส่วน
การลงนามบันทึกข้อตกลงในวันนี้ เป็นการเริ่มต้นความร่วมมือ ระหว่างกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข กับ กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม เพื่อร่วมกันช่วยแก้ปัญหายาเสพติดให้มีประสิทธิภาพด้วยโปรแกรมการแก้ไขฟื้นฟู ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ผู้กระทำผิดคดียาเสพติดในภารกิจกรมคุมประพฤติโดยทั้งสองฝ่ายจะให้การสนับสนุน องค์ความรู้ทางวิชาการ ที่เกี่ยวกับการแก้ไขฟื้นฟู ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพยาเสพติดร่วมกันเพื่อให้การแก้ไขปัญหาผู้เสพยาเสพติด เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล สร้างความปลอดภัยต่อสังคม
อีกทั้งยกระดับภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยด้านการแก้ไข ฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ด้วยการบริการทางด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเข้าสู่ระบบบริการสุขภาพเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจสุขภาพให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล