"ชิดตู" ร่อนแถลงการณ์ด่วนถึง "ภูมิธรรม" พร้อมช่วยปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์

"กองกำลังบีจีเอฟ กะเหรี่ยง" ออกแถลงการณ์ด่วนถึง ‘ภูมิธรรม’ พร้อมร่วมมือไทย ปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์-แก๊งสแกมเมอร์ พร้อมเร่งส่งตัวเหยื่อกลับประเทศ"

 

โดยช่วงค่ำวันนี้ (13 กุมภาพันธ์ 2568) กองกำลังป้องกันชายแดน (Border Guard Force - BGF) ของรัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา นำโดย พลตรีหม่องซอร์ ชิดตู ได้ส่งหนังสือถึง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย

 

 

เพื่อแจ้งถึงความคืบหน้าในการดำเนินมาตรการ ปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ และ แก๊งหลอกลวงคอลเซ็นเตอร์-สแกมเมอร์ ที่แฝงตัวอยู่ในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การดูแลของบีจีเอฟ พร้อมขอความร่วมมือจากรัฐบาลไทยในการสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือที่จำเป็น

เร่งปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์และสแกมเมอร์ที่แฝงตัวในโครงการลงทุน
ในเอกสารดังกล่าว พลตรีหม่องซอร์ ชิดตู ระบุว่า กองกำลังบีจีเอฟ ได้ดำเนินการ ปราบปราม จับกุม และกวาดล้างเครือข่ายอาชญากรรม ที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และการฉ้อโกงทางออนไลน์

 

ซึ่งพบว่ามีการดำเนินกิจกรรมผิดกฎหมายแฝงอยู่ในโครงการลงทุนต่าง ๆ ในพื้นที่ปกครองของบีจีเอฟ โดยเฉพาะในเมืองเมียวดี ซึ่งเป็นเมืองชายแดนที่มีการติดต่อค้าขายและการเดินทางระหว่างไทย-เมียนมาคึกคักมาโดยตลอด

 

 

บีจีเอฟ เน้นย้ำว่า การดำเนินการครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ แต่ยังเป็นการช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์และผู้ที่ถูกบังคับให้ทำงานในแก๊งสแกมเมอร์ โดยกองกำลังบีจีเอฟได้ช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายจำนวนมาก และกำลังดำเนินการ ผลักดันส่งตัวกลับประเทศต้นทาง เพื่อให้ได้รับความปลอดภัยและได้รับการดูแลที่เหมาะสม

เริ่มส่งตัวเหยื่อกลับประเทศผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา 2

 

ในแถลงการณ์ของบีจีเอฟ ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป จะมีการขนส่งเหยื่อค้ามนุษย์ที่ได้รับการช่วยเหลือ ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 ในเมืองเมียวดี เพื่อดำเนินการส่งตัวเหยื่อกลับประเทศ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลเมียนมาและรัฐบาลไทย โดยหวังให้กระบวนการเป็นไปอย่างราบรื่น และให้การช่วยเหลือเหยื่อเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

 

บีจีเอฟยังได้ขอความร่วมมือจากรัฐบาลไทยในการ สนับสนุนแนวทางการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและกฎหมายแก่เหยื่อที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้สามารถกลับประเทศต้นทางได้อย่างปลอดภัย โดยระบุว่า รัฐบาลไทยสามารถให้คำชี้แนะหรือสนับสนุนแนวทางเพิ่มเติมได้ตามความจำเป็น

 

ขอให้ไทยสนับสนุนภารกิจปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ

 

พลตรีหม่องซอร์ ชิดตู ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของ ความร่วมมือระหว่างไทยและเมียนมา ในการจัดการปัญหานี้ โดยเฉพาะการกวาดล้างเครือข่ายแก๊งค้ามนุษย์และสแกมเมอร์ที่มักใช้พื้นที่ชายแดนเป็นฐานปฏิบัติการ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของทั้งสองประเทศ

 

บีจีเอฟมองว่า หากรัฐบาลไทยสามารถ ให้การสนับสนุนในด้านข่าวกรอง กฎหมาย หรือการประสานงานเพื่อปิดกั้นเส้นทางลำเลียงเหยื่อ จะช่วยให้การดำเนินการของกองกำลังมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บีจีเอฟยังมุ่งหวังให้การปราบปรามในครั้งนี้เป็น ต้นแบบของความร่วมมือระหว่างประเทศ ในการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์และอาชญากรรมข้ามชาติในระยะยาว

 

 

ส่งหนังสือแจ้ง ผบ.ฉก.ราชมนูด้วย

 

นอกจากส่งหนังสือถึงรองนายกรัฐมนตรีไทยแล้ว บีจีเอฟยังส่งเอกสารฉบับเดียวกันถึง ผู้บัญชาการฉก.ราชมนู เพื่อแจ้งให้หน่วยงานความมั่นคงของไทยทราบถึงการดำเนินการดังกล่าว พร้อมทั้งขอให้ไทยประสานงานกับบีจีเอฟอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การปราบปรามเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

 

ทั้งนี้ ต้องจับตาดูว่าหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 กระบวนการส่งตัวเหยื่อกลับประเทศจะดำเนินไปได้อย่างราบรื่นตามที่บีจีเอฟคาดหวังหรือไม่ และรัฐบาลไทยจะตอบรับความร่วมมือดังกล่าวในรูปแบบใด