ประวัติวันวาเลนไทน์ฉบับย่อ ไขข้อสงสัยทำไมต้อง 14 กุมภาพันธ์

10 ก.พ. 2568 | 08:00 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ก.พ. 2568 | 11:07 น.
2.2 k

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ “วันวาเลนไทน์” ประวัติโดยย่อ ความสำคัญและที่มาความหมายวันแห่งความรัก อ่านรายละเอียดที่นี่

เหลืออีกเพียง 4 วันเท่านั้น ก็เข้าสู่เทศกาลวันวาเลนไทน์ สำหรับวันวาเลนไทน์ในปีนี้ตรกับวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์  2568 ในวันนั้นคู่รักหลายคู่ไปออกเดทกับคนพิเศษ หรือ บางคู่เลือกวันนี้ขอแต่งงาน

 

ย้อนประวัติวันวาเลนไทน์ : แบบย่อ

 วันวาเลนไทน์ :  จุดกำเนิดในยุคที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ ในยุคนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถูกจัดให้เป็นวันหยุด  เพื่อเป็นเกียรติประวัติแด่ เทพเจ้าจูโน ผู้เป็นจักรพรรดินีแห่งเทพเจ้าโรมัน  นอกจากนี้แล้วพระองค์ยังทรงเป็นเทพเจ้าแห่งอิสตรีเพศและ การแต่งงาน

และในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นวันเริ่มต้นเทศกาลเฉลิมฉลองแห่งลูเพอร์คาร์เลีย การดำเนินชีวิตของหนุ่มสาวจะถูกตัดขาดออกจากกันอย่างสิ้นเชิงในรัชสมัยของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่งกรุงโรม พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่มีใจคอดุร้าย และ ทรงนิยมการทำสงครามนองเลือด ได้ทรงตระหนักว่าเหตุที่ชายหนุ่มส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้าร่วมในกองทัพ เนื่องจากไม่อยากจากคู่รักและครอบครัวไป จึงทรงมีพระราชโองการสั่งห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้นและแต่งงานกันในโรมโดยเด็ดขาด ทำให้ประชาชนมีความทุกข์ใจ

 

นักบุญ “เซนต์วาเลนไทน์” แจ้งเกิดวันวาเลนไทน์

 ในช่วงระหว่างนั้นเอง มีนักบุญรูปหนึ่งนามว่า เซนต์วาเลนไทน์ หรือ วาเลนตินัส ซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงโรมได้ร่วมมือกับเซนต์มาริอัส จัดพิธีแต่งงานให้กับชาวคริสต์หลายคู่  เพราะความปรารถนาดีนี้เองจึงทำให้วาเลนไทน์ ถูกจับ  แม้จะถูกจับแต่ “เซนต์วาเลนไทน์” ยังคงส่งคำอวยพรวาเลนไทน์ขณะที่เป็นนักโทษ

ประวัติวันวาเลนไทน์ฉบับย่อ ไขข้อสงสัยทำไมต้อง 14 กุมภาพันธ์

เหตุผลที่ เซ็นต์วาเลนไทน์ เขียนคำอวยพร เป็นเพราะได้ตกหลุมรักหญิงสาวที่เป็นลูกสาวของผู้คุมที่ชื่อ จูเลีย ซึ่งได้มาเยี่ยมระหว่างที่ถูกคุมขัง ในคืนก่อนที่วาเลนไทน์จะสิ้นชีวิตด้วยการถูกตัดศีรษะ ได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึง จูเลีย โดยลงท้ายว่า "From Your Valentine"

จนกลายเป็นตำนานของวันวาเลนไทน์ วันแห่งความรัก จนถึงปัจจุบันนี้.