วัคซีนโควิดควรฉีดเข็ม 3-4 หรือไม่ กันโอมิครอนได้แค่ไหน ชนิดใดดีสุด เช็คเลย

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

วัคซีน Pfizer Moderna หรือ AstraZeneca ได้ผลดีเท่ากัน เมื่อฉีดกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 และเข็มที่ 4

ในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งไวรัสโอมิครอน (Omicron) เป็นสายพันธุ์หลัก และมีการกลายพันธุ์ไปสู่สายพันธุ์ย่อย BA.5 ซึ่งมีความสามารถในการแพร่ระบาดที่กว้างขวางมากขึ้นนั้น

ทำให้มีคำถามสำคัญขึ้น 2 ประการคือ

• เราจำเป็นจะต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 และ 4 หรือไม่
• ถ้าจำเป็นจะต้องฉีดวัคซีนกระตุ้น ควรฉีดด้วยวัคซีนบริษัทไหนดี

คำตอบของเรื่องนี้ มาจากข้อมูลการศึกษาของทั้งต่างประเทศและในประเทศ

โดยคำถามแรก มีข้อมูลที่ชัดเจนว่า การฉีดวัคซีน 2 เข็ม ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัส Omicron ได้ แต่สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัส Delta ได้ดี แต่ในขณะนี้ไม่มีไวรัส Delta แล้วในประเทศไทย

แต่เมื่อมีการฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 จะทำให้สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัส Omicron ได้ประมาณ 30-70% และถ้าฉีดกระตุ้นเข็มที่ 4 จะป้องกันการติดเชื้อได้เพิ่มขึ้นเป็น 80-82% โดยสามารถลดการเสียชีวิตลงได้ 98-100%

จึงได้คำตอบสำหรับคำถามแรกว่า เราควรฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 และเข็มที่ 4 ตามลำดับเวลาที่เหมาะสม

ส่วนในคำถามที่สองนั้น มีข้อมูลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข

ได้ทำการศึกษาเก็บข้อมูลในช่วงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ถึง 10 เมษายน 2565 ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยพบว่าช่วงเวลาดังกล่าว เป็นไวรัสสายพันธุ์ Omicron 95.6% คือเป็นสายพันธุ์หลัก

พบว่าประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อของ 3 เข็มอยู่ที่ 31% และป้องกันการติดเชื้อของฉีดวัคซีน 4 เข็ม อยู่ที่ 75%

ที่สำคัญคือพบว่า ไม่ว่าจะฉีดกระตุ้นวัคซีนเข็มที่ 3 และ 4 ด้วย วัคซีนบริษัทอะไรก็ตามที่มีฉีดในประเทศไทยคือ Pfizer Moderna AstraZeneca ก็พบว่าได้ผลดีเท่ากัน

กล่าวโดยสรุป

ในสถานการณ์ปัจจุบันของประเทศไทย ที่เรามีไวรัส Omicron เป็นสายพันธุ์หลัก ควรฉีดเข็มที่ 3 และตามด้วยเข็มที่ 4 โดยฉีดห่างจากเข็มที่ 3 อย่างน้อย 4 เดือนขึ้นไป

และสามารถเลือกฉีดกระตุ้นด้วย Pfizer Moderna AstraZeneca ก็ได้