เตือน! โควิดโอมิครอน BA.4-BA.5 ระบาดในไทย น่ากลัวแค่ไหน เช็คเลย

25 มิ.ย. 2565 | 04:11 น.
อัปเดตล่าสุด :25 มิ.ย. 2565 | 05:18 น.
7.9 k

เตือน! โควิดโอมิครอน BA.4-BA.5 ระบาดในไทย น่ากลัวแค่ไหน เช็คเลยที่นี่มีคำตอบ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นชัดเจน หมอเฉลิมชัยเผยเป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศมากกว่าผู้เดินทางจากต่างประเทศถึง 2.8 เท่า

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

 

ต้องระวัง !! ไวรัส Omicron สายพันธุ์ย่อย BA.4 , BA.5 เพิ่มขึ้นในไทยอย่างชัดเจน คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อในปัจจุบันแล้ว

 

นับตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นมา ไวรัส Omicron (โอมิครอน) ทยอยเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว ในสัดส่วนที่มากกว่าไวรัส Delta ประมาณ 4 เท่า

 

จนกระทั่งชนะไวรัส Delta ในที่สุด และปัจจุบันนี้ ผู้ติดเชื้อใหม่เกือบทั้งหมดเป็นไวรัส Omicron แล้ว

 

ในช่วงแรก ไวรัส Omicron ที่เป็นหลักในผู้ติดเชื้อ คือสายพันธุ์ย่อย BA.1

ต่อมาก็มีสายพันธุ์ย่อย BA.2 ที่แพร่เร็วกว่า BA.1 ประมาณ 30% ขึ้นมาแทนที่ จนกลายเป็นสายพันธุ์หลักในช่วงที่ผ่านมา

 

แต่ในขณะนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้รายงานครั้งล่าสุดว่า

 

สายพันธุ์ย่อย BA.4 , BA.5 ได้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากใน 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

 

เตือน โควิดโอมิครอน BA.4-BA.5 ระบาดในไทย

 

จนขณะนี้ สัดส่วนของผู้ติดเชื้อใหม่ที่เป็น BA.4 , BA.5 เกือบจะเท่ากับ BA.2 แล้ว คือพบว่าผู้ติดเชื้อในช่วงที่ผ่านมาเป็น BA.4,5 มากถึง 45.8%  ในขณะที่ BA.2 ได้ลดลงอย่างรวดเร็ว ลงมาเหลือ 53.8%

 

และคาดว่า BA.4,5 ก็คงจะชนะ BA.2 ในเร็ววันนี้

 

ตัวเลขที่น่าสนใจคือ BA.4 ,BA.5 นั้นพบว่าเป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศมากกว่าผู้เดินทางจากต่างประเทศถึง 2.8 เท่า

และองค์การอนามัยโลกยังได้สรุปข้อมูลเบื้องต้นว่า ไวรัสสายพันธุ์ย่อย BA.4 , BA.5  มีลักษณะที่เด่นและต่างไปจาก BA.2 คือ

 

  • มีความสามารถในการแพร่เชื้อเร็วกว่า
  • ดื้อต่อภูมิคุ้มกันของมนุษย์มากขึ้น
  • ดื้อต่อยารักษาโรคมากขึ้น
  • ความรุนแรงของโรค ยังสรุปไม่ได้ว่ารุนแรงมากน้อยอย่างไร

 

จากความสามารถของไวรัส BA.4 , BA.5 ที่ดื้อต่อภูมิคุ้มกันของมนุษย์มากขึ้น จึงทำให้พบว่าผู้ที่เคยติดโควิดในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็น BA.1 มีระดับภูมิคุ้มกันที่ไม่สามารถป้องกันการติด BA.4 , BA.5 ได้ดีนัก จึงมีการติดเชื้อซ้ำ (Re-infection) โดยพบว่าในผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน จะมีโอกาสติดเชื้อซ้ำมากกว่าผู้ที่ได้รับวัคซีน

 

ในช่วงโควิดขาลงของประเทศไทย และเริ่มมีการผ่อนคลายหลายมาตรการด้วยกัน รวมทั้งเรื่องการไม่บังคับให้ใส่หน้ากากในที่สาธารณะนั้น

 

เมื่อมีข้อมูลดังกล่าวข้างต้น จึงทำให้ต้องมีความตระหนักและระมัดระวังเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับไวรัส Omicron สายพันธุ์ย่อยที่ 4,5 ที่มีความสามารถในการติดเชื้อมากขึ้น เกิดการติดเชื้อซ้ำได้ ทั้งที่เคยติดเชื้อและหายดีแล้ว

 

จึงต้องมีความตระหนัก และระมัดระวัง ไม่ประมาท โดยการใส่หน้ากากเท่าที่สามารถทำได้ และควรฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อรับมือกับไวรัส Omicron สายพันธุ์ย่อยที่สี่และห้า (BA.4,BA.5) โดยเร็วต่อไป