"EPR" ทางรอดของธุรกิจไทยมุ่งสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน

24 พ.ค. 2565 | 18:53 น.
อัปเดตล่าสุด :25 พ.ค. 2565 | 01:54 น.

"EPR" ทางรอดของธุรกิจไทยและการมุ่งสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน TIPMSE คพ. องค์กรเครือข่าย กระตุ้นแก้ปัญหาขยะบรรจุภัณฑ์

นายโฆษิต สุขสิงห์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)ในฐานะประธานสถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม (TIPMSE) เปิดเผยว่า TIPMSE ได้ดำเนินการร่วมกับ ส.อ.ท.  ,กรมควบคุมมลพิษ  และเครือข่าย รวม 50 องค์กร จัดงานสัมมนาภายใต้หัวข้อ “EPR ทางรอดของธุรกิจไทย และการมุ่งสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน” 

 

ทั้งนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเรื่องความสำคัญของกลไก EPR ในการนำบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วกลับมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน(Circular Economy : CE)และเป็นการแก้ปัญหาขยะอย่างยั่งยืน 

 

สำหรับการดำเนินการดังล่าวนั้น มุ่งสร้างความเข้าใจหลักการ  EPR (Extended Producer Responsibility) หรือ การขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต (Brand owner) เพื่อนำบรรจุภัณฑ์หลังบริโภคกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ ที่ไม่ใช่เฉพาะจำกัดแต่เพียงผู้ผลิต 

หากแต่ผู้จำหน่าย ผู้บริโภค ผู้จัดเก็บรวบรวม หน่วยงานรัฐ องค์กรอิสระ ล้วนมีบทบาทสำคัญในการพัฒนากลไกดังกล่าวให้เกิดรูปแบบที่เหมาะสมกับไทย และยังเป็นการขยายผลโครงการ PackBack เก็บกลับบรรจุภัณฑ์เพื่อวันที่ยั่งยืน ที่จะสร้างเครือข่ายความร่วมมือและพื้นที่ในการแก้ไขปัญหาขยะจากบรรจุภัณฑ์แบบยั่งยืนให้มากขึ้น 

 

อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2564  โครงการ PackBack เก็บกลับบรรจุภัณฑ์เพื่อวันที่ยั่งยืน ได้เกิดขึ้นโดย TIPMSE ร่วมมือกับ 50 องค์กร ภาครัฐ เอกชน ทั้งผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ผู้รวบรวม โรงงานรีไซเคิล

 

และเทศบาลเมืองแสนสุข เทศบาลเมืองบ้านบึงและเทศบาลตำบลเกาะสีชัง เริ่มโครงการนำร่องในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เพื่อส่งเสริมการจัดการบรรจุภัณฑ์ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนด้วยหลัก EPR 

 

EPR ทางรอดของธุรกิจไทยและการมุ่งสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน

 

ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ได้ศึกษารูปแบบ EPR ในการจัดการกับบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วประเภทต่างๆ ตั้งแต่ต้นทาง เพื่อให้บรรจุภัณฑ์หมุนเวียนกลับมาใช้เป็นวัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ส่งผลดีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ(คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวว่า  กระทรวงทรัพยากรฯ ได้จัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการจัดการบรรจุภัณฑ์ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนด้วยหลักการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิตขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาร่วมมือกันในการจัดทำนโยบาย EPR ที่เหมาะสมเพื่อให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญ  ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะจากขยะบรรจุภัณฑ์  

 

อย่างไรก็ตามการนำ EPR ไปใช้เพื่อแก้ไขปัญหาขยะโดยเฉพาะพลาสติกยังคงเป็นความสมัครใจ   ซึ่งระยะต่อไป ทาง คพ.กำลังพิจารณาที่จะยกร่างเป็นกฎระเบียบหรือกฎหมายให้เกิดการบังคับใช้ในอนาคต เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น 

 

TIPMSE ได้ร่วมมือกับทุกภาคส่วนผลักดันการนำ EPR มาใช้ซึ่งยังเป็นภาคสมัครใจเพื่อเร่งแก้ปัญหาขยะพลาสติกตกค้างอยู่ในสิ่งแวดล้อม รวมถึงบรรจุภัณฑ์อื่นๆ เช่น แก้ว กระดาษ ที่การใช้มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่อง และความร่วมมือครั้งนี้ยังเป็นการเตรียมพร้อมก่อนที่จะมีมาตรการ และกฎหมายบังคับใช้ 

 

ซึ่งในต่างประเทศได้มีการนำระบบ EPR นำมาใช้ในรูปแบบที่แตกต่างกันตามบริบทของประเทศ  ดังนั้นไทยต้องกำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจนต่อความรับผิดชอบ และการสร้างจิตสำนึกในด้านการจัดการพลาสติกและ
บรรจุภัณฑ์  ให้กับทุกกลุ่มในภาคสังคมรวมถึงเยาวชนคนรุ่นใหม่ ให้เกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคผลิตภัณฑ์ และรับผิดชอบต่อบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้ว เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและร่วมรับมือลดภาวะโลกร้อน