โควิดสายพันธุ์ใหม่ BA.2.12.1 BA.4 BA.5 น่ากลัวแค่ไหน แพร่เชื้อไวไหม อ่านเลย

04 พ.ค. 2565 | 11:36 น.
อัปเดตล่าสุด :04 พ.ค. 2565 | 18:36 น.
3.7 k

โควิดสายพันธุ์ใหม่ BA.2.12.1 BA.4 BA.5 น่ากลัวแค่ไหน แพร่เชื้อไวไหม อ่านเลยที่นี่มีคำตอบ หมอธีระอัพเดทเปรียบเทียบทั้ง 3 สายพันธุ์ในอเมริกา

โควิดสายพันธุ์ใหม่ ยังเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ และจับตามองอย่างใกล้ชิด 

 

หลังจากที่โควิด-19 (Covid-19) สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) แตกสายพันธุ์ย่อยออกมามากมาย

 

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า 

 

ตารางเปรียบเทียบ BA.4, BA.5 ในแอฟริกาใต้ และ BA.2.12.1 ในอเมริกา

 

Topol E ได้ช่วยสรุปเป็นตารางเปรียบเทียบสายพันธุ์ย่อยของ Omicron ทั้งสามสายพันธุ์ที่ได้รับการจับตามองว่าจะนำไปสู่การระบาดซ้ำในประเทศต่างๆ ทั่วโลก 

 

ข้อมูลปัจจุบันชัดเจนว่าทั้งสามสายพันธุ์แพร่ไวขึ้นกว่า BA.2 ที่ครองการระบาดในปัจจุบัน 

 

และไวกว่า BA.1 ที่เป็นพันธุ์ดั้งเดิมของ Omicron 

 

 

นอกจากนี้ยังดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากขึ้นด้วย

 

ปัจจุบัน BA.2.12.1 ระบาดไวขึ้นมากในอเมริกา โดยครองสัดส่วนราว 38% และคาดว่าจะยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

 

แนวโน้มการระบาดในปัจจุบัน ทวีปอเมริกา และทวีปแอฟริกานั้นกลับมาอยู่ในขาขึ้นชัดเจนอีกครั้ง 

 

โควิดสายพันธุ์ใหม่ BA.2.12.1  BA.4  BA.5 น่ากลัวแค่ไหน

 

และจากระลอกเก่าๆ ในอดีต หากคุมไม่ได้ การกระจายไปทั่วโลกก็มักจะเห็นผลในช่วงอีกราว 6-10 สัปดาห์ถัดมา 

 

แต่อาจเร็วกว่าเดิมได้ เพราะปัจจุบันการเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างมาก

 

ช่วงเวลาที่ไทยเปิดประเทศให้มีการเดินทางระหว่างประเทศเสรีมากขึ้นนั้น 

 

ย่อมมีความเสี่ยงสูงที่จะมีสายพันธุ์เหล่านี้เข้ามา และจะนำไปสู่การระบาดซ้ำ 

 

จึงต้องป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอระหว่างการดำรงชีวิตประจำวัน

สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อโควิดในประเทศไทยวันที่ 4 พ.ค.  65 นั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามข้อมูลจาก  ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. พบว่า

 

  • ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 9,288 ราย  
  • ผู้ป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 ม.ค.65) 2,067,389 ราย  
  • เสียชีวิตเพิ่ม 82 ราย 
  • หายป่วยเพิ่ม 19,119 ราย 
  • กำลังรักษา 108,654 ราย 
  • หายป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 ม.ค.65) 1,984,816 ราย 
  • ผู้ป่วยปอดอักเสบรักษาตัวในโรงพยาบาล 1,638 ราย 
  • อัตราการครองเตียงของผู้ป่วยปอดอักเสบ 20.4%