ศบค.เคาะมาตรการเปิดเรียน On Site รับเปิดเทอม พฤษภาคม 2565

22 เม.ย. 2565 | 14:19 น.
อัปเดตล่าสุด :23 เม.ย. 2565 | 02:47 น.
9.4 k

ศบค. ชุดใหญ่ รับทราบมาตรการเปิดเรียน On Site เพื่อเตรียมความพร้อมทางด้านสาธารณสุข รับการเปิดภาคเรียนเดือนพฤษภาคม 2565 ครอบคลุมทั้งโรงเรียนประจำ และโรงเรียนแบบไป-กลับ เช็ครายละเอียด วิธีการปฏิบัติ

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ รับทราบมาตรการเปิดเรียน On Site เพื่อเตรียมความพร้อมทางด้านสาธารณสุข สำหรับการเปิดภาคเรียนในเดือนพฤษภาคม 2565 ครอบคลุมทั้งโรงเรียนประจำ และโรงเรียนแบบไป-กลับ

 

มาตรการเตรียมพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1/2565 

  • สถานศึกษาประเมินตนเองเตรียมพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1/2565 ผ่าน TSC+
  • นักเรียนอายุ 12-17 ปี ได้รับวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้น (เข็ม 3) ผ่านระบบสถานศึกษา
  • เร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเด็กอายุ 5-11 ปี ตามความสมัครใจของผู้ปกครองและเด็ก
  • นักเรียน ครู บุคลากร ปฏิบัติตามมาตรการ 6-6-7 อย่างเคร่งครัด อาทิ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก 100% ล้างมือ ตรวจหาเชื้อด้วย ATK เมื่อมีอาการหรือเสี่ยง หลีกเลี่ยงรวมกลุ่มกัน
  • กรณีนักเรียนติดเชื้อโควิด 19 และเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด

 

มาตรการเรียน On Site อยู่ได้กับโควิด

มาตรการเรียน On Site อยู่ได้กับโควิด

โรงเรียนประจำ 

  • เน้นมาตราการ Sandbox Safety Zone in School
  • กรณี ครู นักเรียนหรือบุคลากรเป็น ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ทำตามมาตรการ universal prevention และประเมิน Thai Save Thai (TST) เว้นระยะห่างของนักเรียนในห้อง ไม่น้อยกว่า 1 เมตร

กรณี ครู หรือบุคลากรเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง

  • จัดการเรียนการสอน ปฏิบัติงาน ทำกิจกรรม ใน Quarantine Zone ตามมาตรการ Sandbox Safety Zone in School เป็นเวลา 5 วัน และให้ติดตามสังเกตอาการอีก 5 วัน
  • การตรวจคัดกรองหาเชื้อ ถ้ามีอาการให้ตรวจทันที และให้ตรวจครั้งที่ 1 ในวันที่ 5 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อและตรวจครั้งสุดท้ายวันที่ 10 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ
  • กรณีนักเรียนได้รับวัคซีนครบตาม คำแนะนำในปัจจุบัน และไม่มีอาการไม่แนะนำให้กักตัวให้ตรวจ ATK ในวันที่ 5 หรือมีอาการ
  • แยกกักกันให้สังเกตอาการครบ 10 วัน
  • ปฏิบัติตัวตามมาตรการขั้นสูงสุด

กรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากรเป็นผู้ติดเชื้อ

  • พิจารณาร่วมกับหน่วยบริการสาธารณสุข หรือคณะกรรมการโรคติดต่อ แยกกักตัวที่โรงเรียน (School Isolation) ปฏิบัติตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข (กรณีไม่มีอาการหรือมี อาการเล็กน้อยให้จัดการเรียนการสอนได้ตามเหมาะสม)
  • เว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 2 เมตร
  • งด กิจกรรมกรรมรวมกลุ่ม
  • เน้นการระบายอากาศ โดยปฏิบัติตาม UP-DMHTA อย่างเคร่งครัด
  • ติดต่อสานด่วน 1330 สปสช. ต่อ 14 หรือหน่วยบริการสาธารณสุขในพื้นที่ ตามระบบอนามัยโรงเรียน
  • ทำความสะอาดห้องเรียน ชั้นเรียน สถานศึกษาตามมาตราการของกระทรวงสาธารณสุข และ เปิดเรียนตามปกติ

โรงเรียนไป - กลับ

กรณี ครู นักเรียนหรือบุคลากรเป็น ผู้สัมผัสเสียงต่ำ

  • เรียนในพื้นที่สถานศึกษา (On-Site) ตามปกติ ทำตามมาตรการ universal prevention และประเมิน Thai Save Thai (TST) จัดระยะห่างระหว่างนักเรียนในห้องไม่น้อยกว่า 1 เมตร

กรณี ครู หรือบุคลากรเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง

  • แยกกับตัวที่บ้านหรือสถานที่ตามคำแนะนำของหน่วยบริการสาธารณสุขเป็นเวลา 5 วันและให้ติดตาม สังเกตอาการอีก 5 วัน
  • การตรวจ ATK ถ้ามีอาการให้ตรวจทันทีและให้ตรวจครั้งที่ 1 ในวันที่ 5 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อและตรวจครั้ง สุดท้ายวันที่ 10 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ
  • กรณีนักเรียนได้รับวัคซีนครบตามคำแนะนำปัจจุบันและไม่มีอาการไม่ แนะนำให้กักกัน ให้ตรวจ ATK ในวันที่ 5 หรือเมื่อมีอาการพร้อมแยกกัก ให้สังเกตอาการครบ 10 วัน
  • สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสม และประสานหน่วยบริการสาธารณสุขตามระบบอนามัยโรงเรียน และเว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 2 เมตร

กรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากรเป็นผู้ติดเชื้อ

  • แยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) หรือ ปฏิบัติตามคำแนะนำของสถานบริการด้าน สาธารณสุข
  • พิจารณาจัดทำ school isolation โดยคณะกรรมการโรงเรียนหน่วยงานสาธารณสุข ผู้ปกครองชุมชนพิจารณาร่วมกันให้ความเห็นชอบในการปฏิบัติตามมาตรการ
  • จัดรูปแบบการเรียนการสอนที่เหมาะสมโดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีอาการ
  • ทำความสะอาดห้องเรียน ชั้นเรียน สถานศึกษา และเปิดเรียนตามปกติ

 

มาตรการเปิดเรียน On Site พฤษภาคม 2565