"หาย-ตาย-ลองโควิด” มีแค่ 3 ทาง หากติด "โอมิครอน”

15 เม.ย. 2565 | 16:35 น.
อัปเดตล่าสุด :15 เม.ย. 2565 | 23:42 น.
3.9 k

“หมอธีระ” เตือนอย่าประมาทโอมิครอน อย่าคิดว่าอาการน้อยกว่าเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้า คล้าย ๆหวัดธรรมดา เพราะหากติดโอมิครอนขึ้นมาจริง ๆ จะมีโอกาสเกิดภาวะผิดปกติระยะยาว หรือที่เรียกว่า ลองโควิด ( Long COVID) กลายเป็นว่า มีอาการ "ไม่ปกติ" ติดตัวไปยาว ๆ

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat วันนี้ (15 เม.ย.) เตือนคนไทยอย่าหลงคำลวงว่า เชื้อโควิดโอมิครอน หากติดแล้ว อาการแค่หวัดธรรมดา รุนแรงน้อยกว่าเชื้อโควิด “เดลต้า” เพราะอันตรายก็คือ หากติดเชื้อโอมิครอนขึ้นมาจริง ๆ แม้รักษาหายแล้ว ก็อาจมีโอกาสเกิด “ภาวะผิดปกติระยะยาว” หรือ “ลองโควิด”  (Long COVID) จากที่เคยปกติ ก็อาจกลายเป็นไม่ปกติ

 

รายละเอียดของเนื้อหา มีดังนี้  

Long COVID  is real...

อย่าหลงคำลวงว่าแค่หวัดธรรมดา กระจอก เป็นแป๊บเดียวก็หาย เอาอยู่ เป็นโรคธรรมดาประจำถิ่น

"หาย ตาย และ Long COVID" เป็นสามทางที่จะเกิดขึ้นหากติดเชื้อ

Omicron รุนแรงน้อยกว่าเดลต้าก็จริง

ติดแล้วป่วยมีอาการ มากกว่าไม่มีอาการ

มีโอกาสปอดอักเสบ รุนแรง ใช้ท่อช่วยหายใจ

มีโอกาสตาย ดังที่เห็นตัวเลขทุกวี่วัน

ที่สำคัญคือ หลังติดเชื้อไปแล้ว มีโอกาสเกิดภาวะผิดปกติระยะยาว หรือ Long COVID

จากเคยปกติ กลายเป็นไม่ปกติ

เคยออกกำลังกายได้สบาย กลายเป็นเหนื่อยง่ายขึ้น อ่อนเพลียอ่อนล้ามากจนทำงานไม่ไหว

เคยหัวไว จำแม่น กลายเป็นตื้อ คิดไม่ออก จำไม่ได้

เคยเป็นคนอามรมณ์ดี ร่าเริงแจ่มใส กลายเป็นอารมณ์แปรปรวน เครียด ซึมเศร้า

เคยกินอาหารอร่อย แยกกลิ่นได้ดี กลายเป็นรับรสดมกลิ่นผิดเพี้ยนไป ที่เคยอร่อยกลายเป็นไม่อร่อย ที่เคยหอมกลับกลายเป็นทนไม่ไหว

เคยไม่มีโรค กลายเป็นจู่ๆ ก็มาหาไม่ทันตั้งตัว เช่น เบาหวาน ลิ่มเลือดอุดตัน หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจขาดเลือด ปวดไปทั่ว ปวดเรื้อรัง ฯลฯ

คนที่เคยติดเชื้อแล้วหายดี ก็ให้ตระหนักไว้ว่าความเสี่ยงต่อภาวะต่างๆ ยังคงมีอยู่และอาจเกิดขึ้นภายหลังได้ จึงต้องหมั่นประเมินสถานะสุขภาพของตนเอง ดูแลตนเองให้ดี ป้องกันอย่าให้ติดเชื้อซ้ำ

คนที่รอดมาทุกซีซั่น ก็ต้องไม่ประมาท

การใส่หน้ากากเสมอเป็นหัวใจสำคัญที่สุด และต้องทำควบคู่ไปกับการเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง กิจกรรมเสี่ยง สถานที่เสี่ยง

อย่าให้ถึงเวลาที่ตัวคุณนึกถึงวลีว่า "ไม่น่าเลย รู้งี้..."

เพราะถึงจุดนั้น ย้อนกลับมาไม่ได้

...ป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อย่อมดีที่สุด...