วัดบวรนิเวศวิหาร แถลงจับ-ฝากขังคนฉกทรัพย์ในความดูแล สมเด็จพระวันรัต แล้ว

03 เม.ย. 2565 | 11:37 น.
อัปเดตล่าสุด :03 เม.ย. 2565 | 18:47 น.
3.8 k

วัดบวรนิเวศวิหาร ออกแถลงการณ์ ลูกศิษย์ “สมเด็จพระวันรัต” ยักยอกทรัพย์ ระบุ ตรวจสอบทรัพย์สินและบัญชีของวัดบวรฯกับของวัดอื่น ๆ ที่อยู่ในความดูแลของสมเด็จพระวันรัต พบเจอยักยอกจริง ตอนนี้ตำรวจจับกุมตัวไปแล้ว คดีอยู่ในระหว่างการฝากขังชั้นสอบสวน

ความคืบหน้า กรณีลูกศิษย์ “สมเด็จพระวันรัต” เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร มีการยักยอกทรัพย์ ซึ่งเป็นสมบัติของวัดบวรนิเวศวิหาร กว่า 200 ล้านบาท ไปใช้ส่วนตัว ตามที่ ฐานเศรษฐกิจ ได้มีการนำเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่อง 

 

ล่าสุด วัดบวรนิเวศวิหาร ได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า ด้วยสมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ถึงแก่มรณกาพเมื่อวันที่ 15 มี.ค.65 มีการตรวจสอบทรัพย์สินและบัญชีของวัดบวรฯกับของวัดอื่นๆ ที่อยู่ในความดูแลของเจ้าประคุณสมเด็จฯ พบหลักฐานว่า มีบุคคลกระทำการโดยมิชอบนำทรัพย์สินและเงินในบัญชีของวัดไปเป็นของตนเองโดยทุจริต 

 

จึงมีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ และเจ้าพนักงานตำรวจกองปราบปรามได้กระทำการจับกุมผู้กระทำความผิดไปเรียบร้อยแล้ว คดีอยู่ในระหว่างการฝากขังชั้นสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป จึงแถลงมาเพื่อทราบ ลงวันที่ 2 เมษายน 2565

หนังสือวัดบวรนิเวศวิหาร

 

สำหรับกรณีดังกล่าว ที่ผ่านมา กองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำตรวจแห่งชาติ ได้เข้าตรวจสอบ คนสนิทของสมเด็จพระวันรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร จนทราบว่ามีการยักยอกเงินของสมเด็จพระวันรัต ในส่วนของการบูรณะวัดบวรนิเวศและวัดสาขา ตามที่คณะกรรมการวัดได้ประสานให้ดำเนินการตรวจสอบในทางลับ 

 

โดยพบว่า เป็นลูกศิษย์คนสนิทรายหนึ่ง ที่มีความใกล้ชิดกับสมเด็จพระวันรัต ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำตรวจแห่งชาติ ได้เข้าตรวจสอบในทางลับ ก่อนจะติดตามจับกุมตัวมาได้เมื่อช่วงประมาณวันที่ 23-25 มีนาคม ที่ผ่านมา เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกง และอีกข้อหาคือปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม 

 

จากการตรวจสอบพบพฤติกรรม คือ ปลอมเอกสารเพื่อลักเงินจากบัญชีเงินฝาก ซึ่งแหล่งข่าวจากวัดบวรนิเวศวิหาร ระบุว่า การตรวจสอบขณะนี้พบบัญชีแรกมีการลักเงินออกไป ประมาณ 80 กว่าล้าน ส่วนอีกบัญชีลักไป 120 กว่าล้าน รวมเงินที่สูญหายไปเท่าที่ตรวจสอบพบในขณะนี้ก็ประมาณ 200 ล้านบาท 

 

แต่การตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินทั้งหมดยังไม่เสร็จสิ้น โดยสามารถติดตามกลับคืนมาได้แล้วจำนวนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเป็นการอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ไปถึงทรัพย์สินที่ต้องสงสัยมีการอายัดเอาไว้ตรวจสอบว่าได้มาจากเงินลักไปหรือไม่ด้วย หลายร้อยรายการ อาทิ บัญชีเงินสด พระเครื่อง รถยนต์

แหล่งข่าวจากวัดบวรนิเวศวิหาร ระบุว่า การยักยอกทรัพย์เกิดขึ้นครั้งใหญ่ ในช่วงที่ สมเด็จพระวันรัต เข้ารับการรักษาอาการอาพาธด้วยโรคมะเร็งถุงน้ำดี ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย นายเนยเป็นไม่กี่คนที่สามารถเข้า-ออก ห้องรักษาตัวได้อย่างสนิทใจ แต่กลับพบว่าเป็นการเข้าไปดำเนินการยักยอกทรัพย์แทน 

 

“ในช่วงที่สมเด็จพระวันรัตท่านอาพาธ นายเนยได้เข้าไปเยี่ยมหลายครั้ง และมีการยักยอกเงินออกไปในช่วงนั้น โดยนายเลยได้มีการปลอมบัญชีปลอมลายเซ็นของสมเด็จพระวันรัตในส่วนที่เกี่ยวข้องกับวงเงินเพื่อบูรณะปฏิสังขรณ์วัด โดยทยอยเบิกเงินอยากหยอกจากบัญชีออกไปคราวละ 30 ล้าน 80 ล้านบาท” แหล่งข่าวให้ข้อมูลกับฐานเศรษฐกิจ

 

อย่างไรก็ตามเมื่อนายเนยได้เงินมาแล้ว กลับไม่ได้เก็บเป็นเงินสด แต่นำเงินไปซื้อบ้าน รถหรูยี่ห้อดัง อาทิ ลัมโบร์กีนี เฟอร์รารี รวมทั้งซื้อ เพชร ทอง นาฬิกาหรู มาเป็นทรัพย์สินส่วนตัว