ยาที่ต้องกินเมื่อติดโควิดคือตัวไหน มีวิธีกินอย่างไร อ่านเลยที่นี่

02 เม.ย. 2565 | 10:44 น.
อัปเดตล่าสุด :02 เม.ย. 2565 | 17:44 น.
42.9 k

ยาที่ต้องกินเมื่อติดโควิดคือตัวไหน มีวิธีกินอย่างไร อ่านเลยที่นี่ ฐานเศรษฐกิจรวมข้อมูลจากคลิปแนะนำของพญ. กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี ครบจบในที่เดียว

ยาที่ต้องกินเมื่อติดโควิดเป็นคำถามที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก  เนื่องด้วยสถานการร์การระบาดของเชื้อโควิด-19 (Covid-19) โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ที่มีการกระจายเชื้อได้อย่างรวดเร็ว 

 

อย่างไรก็ดี ปัจจุันมีผู้ป่วยจำนวนมากที่รักษาตัวอยู่ที่บ้าน หรือโฮมไอโซเลชั่น (Home isolation) "ฐานเศรษฐกิจ" จึงไปดำเนินการสืบค้นข้อมูล เพื่อหาคำตอบมาคลายข้อสงสัยว่าเมื่อรักษาตัวในรูปแบบดังกล่าวจะต้องกินยาอะไร 

 

การตรวจ ATK แล้วขึ้นสองขีด แม้จะไม่มีอาการ หรือ อาการน้อย ก็ต้องกินยา ถ้ารักษาตัวอยู่บ้าน ยาที่บ้านที่เรามีอยู่ สามารถรับประทานได้ทันที แม้ไม่มีอาการ แต่ตรวจโควิดแล้วผลบวก หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย

 

ตัวแรกคือ ฟ้าทะลายโจร มีสารออกฤทธิ์ แอนโดกราโฟไลด์ (Andrographolide) สารตัวนี้จะทำให้เชื้อโควิดเจาะเข้ามาในเซลล์ยากขึ้น

 

วิธีการทาน ในหนึ่งวันจะต้องทาน 180 มิลลิกรัม/วัน ปกติสารสกัดในยาตัวนี้ที่ทำมาจะมี 15-20 มิลลิกรัม

 

เทียบง่ายๆ ถ้ามี 15 มก.ต่อหนึ่งเม็ด ก็ต้องทาน 12 เม็ด/วัน เท่ากับ 4 เม็ด เช้า-กลาง-วัน-เย็น

ถ้ามี 20 มก.ต่อหนึ่งเม็ด ต้องทาน 9 เม็ด/วัน เท่ากับ 3 เม็ด เช้า-กลางวัน-เย็น และทานต่อเนื่องไม่เกิน 5 วัน เพราะอาจมีผลเสียต่อตับในระยะยาว

 

ในช่วง 5 วันแรกนั้น คุณหมอบอกว่า สามารถทานได้เลย เพราะยาตัวนี้เป็นหนึ่งในไกด์ไลน์แนวทางการรักษาของกรมการแพทย์ที่ได้ออกมา

 

ตัวที่สอง เป็นตัวที่ทำให้มีผลต่อตับน้อยลงคือ N- Acetylcysteine (NAC) โดสที่ทานสำหรับคนที่เป็นโควิดแล้วสูงกว่าคนทั่วไปที่จะทานเพื่อละลายเสมหะเฉยๆ

 

ยาที่ต้องกินเมื่อติดโควิดคือตัวไหน

 

ตัวนี้ช่วยตัดพันธะเสมหะที่เหนียว มีกลูต้าไธโอน Glutathione ในเซลล์ Lymphocyte คือ เซลล์เพชฌฆาตที่จะไปฆ่าโควิดให้ทำงานได้ดีขึ้น ป้องกันความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น ในเรื่องของปอดบวมน้ำหรือปอดอักเสบ

 

โดสที่จะทานคือ 2400 มก./วัน ถ้าหนึ่งเม็ดมี 600 มก. เท่ากับว่าต้องทาน 2 เม็ด/เช้า และ 2 เม็ด/เย็น 

 

ตัวที่สาม ฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) คือตัวป้องกันไม่ให้ไวรัส Leplication แบ่งตัวสร้างตัวมากขึ้นในร่างกายเรา

 

เป็น ยารักษาหลัก จะทานต่อเมื่อ มีอาการ ถ้ายังไม่มีไม่ต้องทานก็ได้ แต่ถ้าเริ่มมีอาการเพียงเล็กน้อย ก็เข้าแนวทางการรักษาแล้ว สามารถทานได้เลย อาการเริ่มแรก ๆ ตั้งแต่ไม่เป็นมาก เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นมากในอนาคต

อย่างไรก็ดี ต้องเรียนว่าในตอนที่ผู้ป่วยาลงทะเบียนหรือสแกนกับ สปสช. สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นเรื่องสำคัญต่อการจัดยา เพราะที่ระบุ ชื่อ อายุ นามสกุล น้ำหนัก เนื่องจากถ้าน้ำหนักเยอะ โดสยาที่ให้ก็จะไม่เหมือนคนอื่น

 

หรือถ้ามีอาการแล้ว คุณหมอก็จะส่งยา ฟาวิพิราเวียร์ มาให้ที่บ้าน รวมถึงประเมินอาการต่าง ๆ ว่าควรได้รับออกซิเจน หรือยาอื่นเพิ่มเติม เช่น ยาแก้ไอ ยาลดไข้ หรือยาลดน้ำมูก ก็สามารถนำมาใช้ได้เช่นเดียวกัน

 

ถ้าน้ำหนักตัวน้อยกว่า 90 กิโลกรัม โดสที่ต้องทานในวันแรกจะเป็น 1800 มก./เช้า และ 1800 มก./เย็น เม็ดหนึ่งมี 200 มก. ก็เท่ากับ 9 เม็ด/เช้า 9 เม็ด/เย็น

 

ถ้าอาการไม่มาก ส่วนมากทาน 5 วัน วันที่ 2,3,4,5 โดสจะน้อยลงเป็น 800 มก./เช้า 800 มก./เย็น ก็เท่ากับ 4 เม็ด/เช้า 4 เม็ด/เย็น ต่อเนื่องกันจนครบ 5 วัน

 

ถ้าน้ำหนักเกิน 90 กิโลกรัม ต้องทาน 2400 มก./เช้า 2400 มก./เย็น เท่ากับว่า 12 เม็ด/เช้า 12 เม็ด/เย็น ส่วนวันที่ 2-5 โดสจะน้อยลงเป็น 1000 มก. ก็เท่ากับ 5 เม็ด/เช้า 5 เม็ด/เย็น"

 

และที่สำคัญ ช่วงที่ทาน ฟาวิพิราเวียร์ ไม่แนะนำให้ทาน ฟ้าทะลายโจร เพราะว่าอาจเกิดผล (Effect) ต่อกันได้ 

 

ที่มา : คลิปแนะนำเรื่องการกินยารักษาตัวเองระหว่าง โฮมไอโซเลชั่น ของ พญ. กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี ผู้อำนวยการศูนย์พรีเมียร์ไลฟ์เซ็นเตอร์ รพ.พญาไท 2