สงกรานต์ 2565 ขับรถอย่างไรให้ปลอดภัย เทคนิคพื้นฐานที่ทุกคนควรมี ดูที่นี่

02 เม.ย. 2565 | 03:00 น.

สงกรานต์ 2565 กรมการขนส่งทางบก แนะการขับรถอย่างไรให้ปลอดภัย เทคนิคพื้นฐานที่ผู้ขับรถทุกคนควรมีและทำให้คุ้นชิน ดูที่นี่

สงกรานต์ 2565 ที่กำลังมาถึง มีวันหยุดยาวหลายวัน หลายท่านมีแผนเดินทางท่องเที่ยว เดินทางกลับภูมิลำเนาในต่างจังหวัด 


กรมการขนส่งทางบก ชี้การขับรถให้ปลอดภัย ผู้ขับรถถือว่ามีความสำคัญที่สุด เพราะเป็นผู้ที่ควบคุมรถ  โดยแต่ละคนอาจมีเทคนิคการขับรถของตัวเองตามประสบการณ์และความชำนาญ แต่เทคนิคพื้นฐานที่ผู้ขับรถทุกคนควรมีและทำให้คุ้นชิน คือ

มองให้ไกล สังเกตและคาดการณ์ตลอดเวลา และนำสิ่งที่มองเห็นมาคาดการณ์ล่วงหน้า เพื่อให้สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้โดยไม่เกิดอุบัติเหตุ  

 

สงกรานต์ 2565 ขับรถอย่างไรให้ปลอดภัย เทคนิคพื้นฐานที่ทุกคนควรมี ดูที่นี่

มองภาพกว้าง 360 องศา  ในขณะขับรถไม่ได้มีรถเราเพียงคันเดียวที่วิ่งบนท้องถนน การรับรู้รอบด้านจึงมีความสำคัญและจำเป็นต้องมองภาพรอบรถ ด้วยการมองกระจกด้านซ้ายและด้านขวาให้บ่อย ทุกๆ 5-8 วินาที 

 

สงกรานต์ 2565 ขับรถอย่างไรให้ปลอดภัย เทคนิคพื้นฐานที่ทุกคนควรมี ดูที่นี่

 

 

สอดส่ายสายตาตลอดเวลา เพราะสภาพแวดล้อมในการขับขี่จะเปลี่ยนแปลงไปมาตลอดเวลา การรับรู้ถึงข้อมูลที่ใหม่ตลอดเวลาจึงเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ขับรถต้องเคลื่อนไหวสายตาเพื่อมองไปมาทุกๆ 2 วินาที พยายามอย่ามองจ้องไปที่จุดใดจุดหนึ่งนานเกินไป 

 

สงกรานต์ 2565 ขับรถอย่างไรให้ปลอดภัย เทคนิคพื้นฐานที่ทุกคนควรมี ดูที่นี่

 

สร้างพื้นที่ว่างให้ตัวเอง หลีกเลี่ยงการขับรถเกาะกลุ่ม ให้ทิ้งระยะห่างจากคันหน้าให้มากกว่าความเร็วที่เราขับรถ เช่น ถ้าขับรถด้วยความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ต้องทิ้งระยะห่างจากคันหน้าให้มากกว่า 90 เมตร 

ส่วนการหยุดรถที่สัญญาณไฟ ต้องมองเห็นเส้นบังคับหยุด หากหยุดต่อคันอื่นต้องมองเห็นล้อคู่หลังของรถคันข้างหน้าสัมผัสพื้นถนน 

 

สงกรานต์ 2565 ขับรถอย่างไรให้ปลอดภัย เทคนิคพื้นฐานที่ทุกคนควรมี ดูที่นี่


 

ให้สัญญาณล่วงหน้า  ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยว เปลี่ยนเลน หรือหยุด ควรให้สัญญาณแก่รถคันอื่น เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และขณะที่เท้าแตะเบรกสายตาต้องมองกระจกหลังทุกครั้ง 

 

สงกรานต์ 2565 ขับรถอย่างไรให้ปลอดภัย เทคนิคพื้นฐานที่ทุกคนควรมี ดูที่นี่

 

นอกจากการขับรถอย่างระมัดระวังไม่ไปชนรถคันอื่น เราก็ต้องระวังไม่ให้คันอื่นขับรถมาชนเรา และต้องไม่เป็นสาเหตุให้ผู้อื่นชนกัน 
 

ที่มา : กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News