เตือน! ติดโอมิครอนหายแล้วป้องกันการติดเชื้อซ้ำไม่ได้ เพราะอะไร เช็กเลย

19 มี.ค. 2565 | 12:14 น.
อัปเดตล่าสุด :19 มี.ค. 2565 | 19:15 น.
7.5 k

เตือน ติดโอมิครอนหายแล้วป้องกันการติดเชื้อซ้ำไม่ได้ เพราะอะไร เช็กเลยที่นี่ หมอธีระเผยฉากทัศน์ที่บางหน่วยงานคาดหวังในอีกไม่กี่เดือนว่าโควิดจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น โดยใช้ชีวิตแบบปกติในอดีตที่คุ้นชินไม่น่าเป็นไปได้

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า 

 

19 มีนาคม 2565 ทะลุ 467 ล้าน

 

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 1,606,339 คน ตายเพิ่ม 4,901 คน รวมแล้วติดไปรวม 467,650,822 คน เสียชีวิตรวม 6,092,865 คน

 

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เกาหลีใต้ เยอรมัน ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และอิตาลี

 

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก

 

จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็น 88.06% ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็น 67.53%

 

การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็น 35.62% ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็น 30.56%

สถานการณ์ระบาดของไทย

 

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก และอันดับ 3 ของเอเชีย

 

ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 19 ของโลก

 

ข้อจำกัดของภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19) สายพันธุ์ Omicron (โอมิครอน)

 

ล่าสุดงานวิจัยจาก UCSF สหรัฐอเมริกา ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์การแพทย์ระดับโลกอย่าง Cell เมื่อ 17 มีนาคม 2565 ชี้ให้เห็นว่า ระดับภูมิคุ้มกันในน้ำเลือด Neutralizing antibody ที่เกิดจากการติดเชื้อ Omicron นั้นน้อยกว่าการที่ได้จากฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นถึง 3 เท่า

 

ติดเชื้อโอมิครอนหายแล้วป้องกันการติดเชื้อซ้ำไม่ได้

 

ทั้งนี้หากเปรียบเทียบระดับภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อต่างสายพันธุ์ พบว่า การติดเชื้อ Omicron จะมีระดับภูมิคุ้มกันน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตาราว 10 เท่า

 

ด้วยข้อมูลต่างๆ ข้างต้น การติดเชื้อสายพันธุ์ Omicron มาก่อน อาจไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อซ้ำ และอาจไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อที่เกิดจากสายพันธุ์อื่นในอนาคต

ดังนั้น New Normal ในอนาคตที่เราจะเห็นนั้น จึงไม่น่าจะใช่ฉากทัศน์ที่บางหน่วยงานคาดหวังในอีกไม่กี่เดือนว่าโควิดจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น โดยใช้ชีวิตแบบปกติในอดีตที่คุ้นชิน

 

ควรยอมรับความจริงที่ยืนบนหลักฐานความรู้ที่ผ่านการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ และนำมาออกแบบรูปแบบการใช้ชีวิตในสังคม ปรับแต่งระบบ โครงสร้าง กระบวนการต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ให้สามารถอยู่ได้อย่างปลอดภัยกว่าในอดีต

 

ความปกติในอนาคตอันใกล้ ไม่ใช่ความปกติอันตรายในอดีตที่เราคุ้นชิน จนกว่าการระบาดทั่วโลกจะอยู่ในวิสัยที่ควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ