อาลัย “สรพงษ์ ชาตรี” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง

10 มี.ค. 2565 | 17:01 น.
อัปเดตล่าสุด :11 มี.ค. 2565 | 21:30 น.

อาลัย “สรพงษ์ ชาตรี” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ในปี พ.ศ. 2551และในปี พ.ศ. 2552 เสียชีวิตอย่างสงบสิริอายุ 71 ปี

วันที่ 10 มีนาคม 2565 เพจเฟซบุ๊กดาราภาพยนตร์รายงานว่า “สรพงษ์ ชาตรี” พระเอกนักบุญและศิลปินแห่งชาติ เสียชีวิตแล้วอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งปอด นับเป็นความสูญเสียครั้งสำคัญอีกครั้งของวงการบันเทิงเมืองไทย

 

โดย พี่เอก-สรพงษ์ จากไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งที่ลุกลาม เมื่อเวลา 15.51 น ณ ห้องพักผู้ป่วยโรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ สิริอายุ 71ปี

“สรพงษ์ ชาตรี”   ชื่อเล่น เอก (ชื่อจริง กรีพงษ์ เทียมเศวต, พิทยา เทียมเศวต) นักแสดงชายชั้นแนวหน้าของไทย ผู้ได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ในปี พ.ศ. 2551และในปี พ.ศ. 2552 ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ศิลปศาสตร์ สาขาสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา จากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เมตตาบารมี อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เข้าวงการตั้งแต่อายุ 19 ปี

ประวัติ สรพงษ์  ชาตรี 

สรพงษ์ เกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2493 ที่อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรของนายชื้น กับนางพริ้ว เทียมเศวต จบการศึกษาชั้น ป.4 แล้วบวชเรียนตั้งแต่อายุ 8 ปี ที่วัดเทพสุวรรณ พระนครศรีอยุธยา และวัดดาวดึงส์ บางยี่ขัน ธนบุรี จนกระทั่งลาสิกขาบทเมื่อ พ.ศ. 2512

สรพงษ์ ชาตรี มีบุตรทั้งหมด 4 คน คือ พิมพ์อัปสร (ขวัญ), พิศุทธินี (เอิง), พิศรุตม์ (เอม) และพิทธกฤต เทียมเศวต (อั้ม) ซึ่งพิมพ์อัปสร บุตรคนแรกเกิดกับทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ส่วนบุตรคนที่สองถึงสี่เกิดกับพิมพ์จันทร์ ใจวงศ์ (แอ๊ด)[2][3] ปัจจุบันสมรสกับ ดวงเดือน จิไธสงค์ รองมิสไทยแลนด์เวิลด์ พ.ศ. 2529 และรองนางสาวไทย พ.ศ. 2530

ในปี พ.ศ. 2552 ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ศิลปศาสตร์ สาขาสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา จากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา[4] ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เมตตาบารมี อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (จากผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านศิลปะร่วมสมัย) สาขาศิลปะการแสดงในคณะกรรมการส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย[5]

ในวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 15.51 น. สรพงศ์ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งปอดหลังจากเข้ารับการรักษาตัว ณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 สิริอายุ 71 ปี