เตือน! แฮบปีวันวาเลนไทน์ 2022 ดันโควิดระบาดในครอบครัว-สถานที่ทำงาน

14 ก.พ. 2565 | 09:02 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ก.พ. 2565 | 16:04 น.

เตือน! แฮบปีวันวาเลนไทน์ 2022 ดันโควิดระบาดในครอบครัว-สถานที่ทำงาน หมอธีระเผยติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 47% และตายเพิ่มขึ้น 12% ถือว่าเป็นขาขึ้นชัดเจน

วาเลนไทน์ เป็นวันแห่งความรัก ซึ่งจะตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี โดยเป็นวันที่คนส่วนใหญ่จะแสดงความรักต่อกันมากที่สุดวันหนึ่ง

 

อย่างไรก็ดี ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 (Covid-19)อาจจะส่งผลทำให้การเฉลิมฉลอง หรือการแสดงความรักต่อกันเป็นไปด้วยความระมัดระวัง

 

ล่าสุดรศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า 

 

14 กุมภาพันธ์ 2565...วันแห่งความรัก...

 

ทะลุ 412 ล้านแล้ว เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 1,460,719 คน ตายเพิ่ม 5,433 คน รวมแล้วติดไปรวม 412,055,598 คน เสียชีวิตรวม 5,833,887 คน

 

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ รัสเซีย เยอรมัน ฝรั่งเศส ตุรกี และญี่ปุ่น

 

จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็น 90.09% ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็น 83.56%

 

ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นคิดเป็น 53.24% ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็น 33.16%

 

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 5 ใน 10 อันดับแรก และ 8 ใน 20 อันดับแรกของโลก

วิเคราะห์ภาพรวมทั่วโลก

 

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั่วโลกมีจำนวนติดเชื้อใหม่ลดลงกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าถึง 19% และตายลดลง 1%

 

ในขณะที่เอเชียเรา ติดเชื้อลดลง 9% ถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของโลก และมีตายเพิ่มขึ้น 7% สวนกระแสโลก

 

ส่วนไทยเรานั้น ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 47% และตายเพิ่มขึ้น 12% ถือว่าเป็นขาขึ้นชัดเจน และต้องเน้นย้ำว่านี่เป็นตัวเลขที่ดูตามรายงานทางการที่เป็นเพียงจำนวนติดเชื้อยืนยัน 

 

ห่วงโควิดระบาดในครอบครัว-ที่ทำงาน

 

โดยยังไม่ได้รวม ATK ดังนั้นสถานการณ์ระบาดจริงนั้นจึงรุนแรงกว่าตัวเลขข้างต้น

 

ดังที่วิเคราะห์ไปเมื่อวานนี้แล้วว่า หากเราเป็นไปตามธรรมชาติการระบาดที่เห็นจากประเทศอื่นทั่วโลก มีความเป็นไปได้ว่าการระบาดของไทยน่าจะเข้าสู่พีคในช่วง 27 กุมภาพันธ์ โดยอาจเบี่ยงเบนจากนั้นราวหนึ่งสัปดาห์

 

ทั้งนี้ ค่ามัธยฐานของจำนวนการติดเชื้อใหม่สูงสุดของ 22 ประเทศที่มีจำนวนติดเชื้อสะสมมากที่สุดใน 30 ลำดับแรกของโลก 

 

และได้ผ่านช่วงพีคของการระบาดไปแล้วนั้นจะอยู่ราว 3.6 เท่าของระลอกก่อนหน้า

การตระหนักถึงสถานการณ์ปัจจุบันว่าการระบาดกำลังทวีความรุนแรง กระจายไปทั่ว และเป็นขาขึ้น จึงมีความสำคัญมาก 

 

ควรดำเนินชีวิตประจำวันอย่างมีสติ ป้องกันตัวเสมอ ใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ เลี่ยงการกินดื่มหรือแชร์ของกินของใช้ร่วมกับผู้อื่น เลี่ยงสถานที่คับแคบ ทึบ ระบายอากาศไม่ดี แออัด 

 

ยิ่งวันนี้เป็นวันแห่งความรัก ซึ่งจะมีวัยรุ่นและวัยทำงานจำนวนมากออกมาเฉลิมฉลองกัน กินดื่มกัน หรือมีกิจกรรมพบปะกัน หากไม่ป้องกันให้ดีจะมีการติดเชื้อแพร่เชื้อกันได้มาก 

 

และนำพาสู่การแพร่ระบาดในหมู่สมาชิกในครอบครัวและในสถานที่ทำงานกันเป็นทอดๆ โดยอาจทำให้การระบาดหนักขึ้น และยาวนานขึ้นได้

 

พึงระลึกไว้เสมอว่า แม้ Omicron (โอมิครอน) จะรุนแรงน้อยกว่าเดลตา แต่การติดเชื้อโควิด-19 นั้น ไม่ใช่แค่ติดเชื้อ ไปรักษาหรือประคับประคองดูอาการแล้วจะจบที่การหายจากโรค 

 

ปัญหาสำคัญที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอย่างหนักคือ ภาวะอาการคงค้างระยะยาวและโรคเรื้อรังที่จะเกิดขึ้น ที่เรียกว่า Long COVID ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทั้งตัวคนที่เคยติดเชื้อ ครอบครัว และสังคม โดยจะส่งผลต่อสมรรถนะของร่างกาย และสมรรถนะในการทำงานได้

 

สถานการณ์ในเดนมาร์ก หนึ่งในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย ที่ยกเลิกมาตรการเข้มข้นป้องกันการระบาดไปเมื่อราว 2 สัปดาห์ก่อน 

 

ตอนนี้เริ่มเห็นสัญญาณของผลกระทบตามมา ทั้งในเรื่องจำนวนการติดเชื้อใหม่รายวัน การป่วย และการเสียชีวิต 

 

ดังนั้นไทยเราคงต้องพิจารณาเรื่องนโยบายให้ดี การตัดสินใจก้าวตามคนอื่นนั้นควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะจุดหมายปลายทางนั้นอาจไม่ใช่ทางสว่างเสมอไป

 

ค่อยๆ ก้าวอย่างมั่นคง จะไม่หกล้ม และอยู่รอดปลอดภัยไปด้วยกัน

 

สุขสันต์วันแห่งความรัก