วัคซีนเข็ม 3 ป้องกันโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยที่ 2 ได้ 70%

28 ม.ค. 2565 | 12:19 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ม.ค. 2565 | 19:19 น.

วัคซีนเข็ม 3 ป้องกันโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยที่ 2 ได้ 70% หมอธีระเผยประสิทธิภาพวัคซีนโดยรวมลดความเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรงจนต้องนอน รพ. และการเสียชีวิตได้ดีเกิน 80-90%

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า 

 

 

 

28 มกราคม 2565 ทะลุ 366 ล้านไปแล้ว

 

 

 

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 3,263,131 คน ตายเพิ่ม 9,319 คน รวมแล้วติดไปรวม 366,345,507 คน เสียชีวิตรวม 5,655,204 คน

 

 

 

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ฝรั่งเศส อเมริกา อินเดีย บราซิล และเยอรมัน 
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็น  86.56% ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็น 80.36%

 

 

 

ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นคิดเป็น 51.96% ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็น 34.59%

 

 

 

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 6 ใน 10 อันดับแรก และ 12 ใน 20 อันดับแรกของโลก

อัพเดต Omicron (โอมิครอน) สายพันธุ์ BA.2

 

 

 

รายงานล่าสุด 27 มกราคม 2565 จาก UK HSA COVID-19 Vaccine Surveillance Report ของสหราชอาณาจักรมีข้อมูลน่าสนใจ

 

 

 

ประสิทธิภาพของการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นนั้นยังได้ผลต่อสายพันธุ์  BA.2 (70%) เฉกเช่นเดียวกับ BA.1 (63%)

 

 

 

ทั้งนี้ดูเหมือนว่า BA.2 อาจมีแนวโน้มดื้อต่อภูมิคุ้มกันน้อยกว่าหรือพอๆ กับ BA.1 

 

 

 

 

วัคซีนเข็มกระตุ้นได้ผลต่อสายพันธุ์  BA.2 (70%)

 

 

 

อย่างไรก็ตามคงต้องมีการวิจัยพิสูจน์กันต่อไป ซึ่งหากเป็นตามข้อสังเกตดังกล่าว การที่ BA.2 แพร่ระบาดเร็วกว่า BA.1 นั้นอาจมาจากคุณสมบัติของตัวไวรัสเอง ไม่ได้มาจากการดื้อต่อภูมิคุ้มกัน

 

 

 

ซึ่งแตกต่างจากตอนที่เปรียบเทียบกันระหว่าง BA.1 กับเดลตา ที่พบว่าการแพร่เร็วของ BA.1 นั้น เหตุผลหลักมาจากการดื้อต่อภูมิคุ้มกันที่มากกว่าเดลตาถึง 20-40 เท่า 

ภาพรวมเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการฉีดวัคซีน

 

 

 

โดยรวมแล้วยังสามารถลดความเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรงจนต้องนอนรพ. และลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ดีมาก (เกิน 80-90% ขึ้นไป) 

 

 

 

แต่ประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อแล้วป่วยมีอาการ (symptomatic infection) นั้นไม่สูงมากนัก (ราว 50-75%) ซึ่งแปลว่า ฉีดแล้วยังมีโอกาสติดเชื้อได้ ป่วยได้

 

 

 

นี่จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเน้นย้ำให้พวกเราทุกคนป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด สม่ำเสมอ เป็นกิจวัตร

 

 

 

การใส่หน้ากาก รักษาระยะห่างจากคนอื่น ลดความเสี่ยงด้วยการพบคนเท่าที่จำเป็น ใช้เวลาสั้นๆ เลี่ยงการกินดื่มร่วมกัน

 

 

 

เหล่านี้เป็นวิธีที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลในการลดโอกาสติดเชื้อแพร่เชื้อ และจะช่วยประคับประคองให้ผ่านพ้นวิกฤติการระบาดไปได้

 

 

 

ขอให้ดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท