กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กวันนี้ (17 ม.ค.) ว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยพบ ผู้เสียชีวิตรายแรกจากสายพันธุ์โอมิครอน เป็นหญิงสูงอายุวัย 86 ปี และ เป็นผู้ป่วยติดเตียงที่เป็นอัลไซเมอร์ ได้รับวัคซีนไฟเซอร์แล้ว 2 เข็ม จาก รพ.นาหม่อม ติดเชื้อโควิดจากหลานชายที่เป็นผู้ป่วยยืนยันโควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่เดินทางกลับมาจากจังหวัดภูเก็ต หญิงรายดังกล่าว จึงถือว่าเป็นผู้เสียชีวิตจากโอมิครอนรายแรกของสงขลา และรายแรกของประเทศไทย
เปิดไทม์ไลน์ย้อนหลังดังนี้
- 6 ม.ค. 65 ผู้ป่วยมีไข้ มีเสมหะ ทราบข่าวลูกสาวตรวจพบเชื้อโควิด และหลานสาวผู้ป่วยตรวจหาเชื้อด้วย ATK ผล positive (ผลเป็นบวก หมายถึงตรวจพบโควิด) จึงส่งต่อเข้ารับการรักษาที่ รพ.หาดใหญ่
- 7 ม.ค. 65 ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยในที่ รพ.หาดใหญ่ แพทย์เก็บตัวอย่าง NPS ส่งตรวจยืนยันที่ห้องปฏิบัติการ รพ.หาดใหญ่ ผลพบเชื้อโควิด โดยผู้ป่วยมีไข้ 38.5 องศา ไอ หายใจลำบาก แพทย์รับไว้ที่แผนก CICU เอ็กซเรย์ปอด พบปอดอักเสบ จ่ายยา Dexamethasone และ Remdesivir
- 8 ม.ค. 65 ผู้ป่วยเสียชีวิต เวลา 09.20 น. ส่งตัวอย่างตรวจยืนยันสายพันธุ์ ผลพบเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน
ขณะเดียวกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี รายงานว่า พบผู้เสียชีวิตจากโควิดสายพันธุ์โอมิครอนอีกรายเป็นเพศหญิง อายุ 84 ปี ภูมิลำเนา อ.กุดจับ จ.อุดรธานี มีโรคประจำตัวเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย และเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่มีประวัติได้รับวัคซีน มีประวัติเสี่ยงจากครอบครัวเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19
สำหรับไทม์ไลน์ มีดังนี้
- 9 ม.ค. 65 ตรวจหาเชื้อโควิดด้วยวิธี RT-PCR เนื่องจากเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของลูกชายที่ติดเชื้อโควิด
- 10 ม.ค.65 ผลตรวจพบเชื้อ แต่ผู้ป่วยและญาติปฏิเสธที่จะเข้ารับการรักษาใน รพ. แพทย์จึงอนุญาตให้เข้าระบบ Home Isolation โดยได้จ่ายยาฟาร์วิพิราเวียร์ จัดเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย และเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วให้ โดยก่อนเสียชีวิต ลูกชายที่ดูแลแจ้งว่า ก่อนติดเชื้อโควิด ค่าออกซิเจนปลายนิ้วอยู่ที่ระดับ 86-90% ผู้ป่วยไม่มีอาการเหนื่อย หายใจไม่หอบ