"แอสตร้า"เปิดผลวิจัยใหม่เข็ม3 เพิ่มภูมิต้านโควิดทุกสายพันธุ์รวมโอมิครอน

14 ม.ค. 2565 | 07:46 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ม.ค. 2565 | 14:48 น.
10.0 k

แอสตร้าเซนเนก้าเปิดข้อมูลจากการศึกษาล่าสุด พบข้อบ่งชี้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเมื่อฉีดเป็นวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ช่วยเพิ่มแอนติบอดีป้องกันโควิด-19 ได้ทุกสายพันธุ์ รวมถึงโอไมครอน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวานนี้(13มกราคม2565 )อ้างการเปิดเผยของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า พบข้อบ่งชี้จากการทดลองวัคซีนครั้งล่าสุด หลังจากที่ฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า เป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ช่วยให้ผู้ได้รับวัคซีนมีแอนติบอดีต่อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มขึ้น

การทดลองดังกล่าวเป็นการสังเกตการณ์จากผลลัพธ์ในผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า หรือวัคซีน mRNA ยี่ห้ออื่นมาแล้ว 2 เข็ม ก่อนจะฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าเป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 หรือวัคซีนเชื้อตาย โดยพบว่ามีการสร้างแอนติบอดีสูงขึ้นต่อทั้งไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน รวมถึงสายพันธุ์อื่นๆ ทั้งเบตา, เดลตา, อัลฟา และแกรมมา 

 

นอกจากนี้ข้อมูลจากอีกการทดลองหนึ่งซึ่งเป็นการทดลองในระยะที่ 4 รายงานในระบบจัดเก็บเอกสารวิชาการก่อนการตีพิมพ์ออนไลน์ เดอะ แลนเซ็ต (The Lancet) ชี้ให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าฯ เป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 นั้น สามารถเพิ่มระดับแอนติบอดีได้เป็นอย่างมากหลังจากที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคมาก่อน

ข้อมูลเหล่านี้เพิ่มหลักฐานสนับสนุนว่าสามารถใช้วัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าเป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงวัคซีนที่ได้รับมาก่อนหน้านี้” แอสตร้าเซนเนก้าระบุในแถลงการณ์ พร้อมเสริมว่า บริษัทจะเร่งส่งข้อมูลเพิ่มเติมนี้ไปยังหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลกท่ามกลางความจำเป็นอย่างเร่งด่วนในการใช้วัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 
 

การเปิดเผยดังกล่าวสอดคล้องกับการทดลองในสหราชอาณาจักรเมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีผลการทดลองออกมาในลักษณะที่คล้ายคลึงกันเรื่องการเพิ่มขึ้นของแอนติบอดี หลังฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าเป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ในผู้ที่ฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า และวัคซีน mRNA ของไฟเซอร์ 
 

อย่างไรก็ตามการทดลองของสหราชอาณาจักรในขณะนั้นซึ่งดำเนินการในช่วงที่ยังไม่มีการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ได้ข้อสรุปว่า วัคซีนเข็มกระตุ้นของแอสตร้าเซนเนก้าสามารถเพิ่มแอนติบอดีได้สูงสุดเมื่อฉีดหลังจากที่ได้รับวัคซีน mRNA ของไฟเซอร์หรือโมเดอร์นามาแล้ว 2 เข็ม

 

"เซอร์ เมเน แพนกาลอส" รองประธานบริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนาด้านยาชีวเภสัชภัณฑ์ (Biopharmaceuticals) ของแอสตร้าฯ กล่าวว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าฯ ช่วยปกป้องคนหลายร้อยล้านคนทั่วโลกจากโรคโควิด-19 และข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า วัคซีนดังกล่าวสามารถเป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ซึ่งรวมถึงการใช้กับผู้ที่เคยได้รับวัคซีนประเภทอื่นมาก่อน เนื่องด้วยความเร่งด่วนอย่างต่อเนื่องของโรคระบาด และวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าฯ สามารถเพิ่มการตอบสนองของภูมิคุ้มกันต่อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนได้ จึงจะดำเนินการยื่นขอทะเบียนอนุญาตทั่วโลก เพื่อนำวัคซีนตัวนี้มาใช้เป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3

 

"ศาสตราจาร์ย เซอร์ แอนดริว เจ พอลลาร์ด" ผู้อำนวยการและหัวหน้าฝ่ายตรวจสอบ Oxford Vaccine Group มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด กล่าวว่า ผลการศึกษาที่สำคัญนี้แสดงให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าฯ เป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 หลังจากที่ได้รับวัคซีน 2 เข็มแรก ของแอสตร้าฯ หรือวัคซีน mRNA หรือวัคซีนเชื้อตาย ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันสู้กับโรคโควิด-19 ได้ดี

 

ทั้งนี้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของออกซ์ฟอร์ด – แอสตร้าฯ นั้น เหมาะที่จะเป็นทางเลือกที่จะเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับประชากรของหลายๆ ประเทศ ที่กำลังพิจารณาโปรแกรมการฉีดวัคซีนกระตุ้น เพื่อเป็นการเพิ่มป้องกันหลังจากที่ได้รับหลังได้รับวัคซีนมาแล้ว 2 เข็ม


 
ที่มา  : Reuters / NDTV