โอมิครอนอาการรุนแรง-ระบาดเร็วแค่ไหน ดื้อต่อวัคซีนจริงไหม เช็คเลย

12 ม.ค. 2565 | 09:51 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ม.ค. 2565 | 19:09 น.

โอมิครอนอาการรุนแรงหรือไม่ ระบาดเร็วแค่ไหน ดื้อต่อวัคซีนจริงไหม อ่านครบจบที่นี่ หมอยงแนะต้องแยกแยะความเห็นที่มีแนวโน้มเอียง หรือมีอคติ ข้อมูลที่ได้จากสื่อสังคม

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ (หมอยง) หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสเฟซบุ๊ก (Yong Poovorawan) โดยมีข้อความว่า

 

 

โควิด-19 (Covid-19) โอมิครอน (Omicron) หลังจากที่มีการระบาดมาแล้ว 2 เดือน

 

 

มีข้อมูลองค์ความรู้เกี่ยวกับ โอมิครอน เพิ่มขึ้นมากอย่างรวดเร็ว

 

 

โอมิครอน ระบาดได้รวดเร็วมาก กระจายไปทั่วโลก พบแล้วมากกว่า 140 ประเทศ หรือจะเรียกว่าทั่วโลกก็ได้ แสดงถึงการขยายตัวเพิ่มขึ้นเร็วมากและกำลังจะเข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดลตา

 

 

โอมิครอน ติดต่อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่นที่ผ่านมา 

 

 

ผู้ติดเชื้อ โอมิครอน มีความรุนแรงของโรคน้อยกว่าสายพันธุ์ที่ผ่านมา อัตราผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล น้อยกว่า และภาพรวมอัตราการตายของ โอมิครอน ก็ลดลงกว่าสายพันธุ์ หรือที่มีการระบาดก่อนหน้านี้

การตรวจวินิจฉัย ไม่ว่าจะเป็น RT-PCR หรือการตรวจอย่างรวดเร็วด้วย ATK ไม่ได้เปลี่ยนแปลงประสิทธิภาพ   เพราะ RT PCR 

 

 

ส่วนมากเราใช้ยีน N และ RdRp ที่มีความคงที่ ส่วน RDT ก็เป็นการตรวจ nucleocapsid ไม่ใช่เป็นการตรวจหา spike protein ซึ่ง ส่วนของ nucleocapsid มีความเสถียรมากกว่า

 

 

โอมิครอน หลบหลีกภูมิต้านทานได้ ภูมิต้านทานที่เกิดจากวัคซีน 
ไม่ว่าจะเป็น AZ หรือ mRNA ส่วนใหญ่มีเป้าหมายอยู่ที่ spike protein ที่ โอมิครอน มีการเปลี่ยนแปลงมาก จึงทำให้ประสิทธิภาพวัคซีนที่ผ่านมาลดลง 

 

 

อัพเดทองค์ความรู้โอมิครอน

 

 

ประกอบกับ ระยะฟักตัวของโรคสั้น จึงต้องใช้ระดับภูมิต้านทานที่สูงอยู่ตลอดเวลาในการป้องกันการติดโรค เมื่อภูมิต้านทานลดลงก็ไม่สามารถที่จะป้องกันได้ 
แต่กระบวนการกำจัด หรือหายจากโรค อาศัยระบบภูมิต้านทานส่วนอื่นด้วย จึงทำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีน มีอาการของโรคน้อยลง และจะหายจากโรคได้เร็วกว่า

 

 

ทุกครั้งที่มีการระบาดเพิ่มขึ้นจะมีผลต่อสุขภาพร่างกาย เศรษฐกิจ สังคมและจิตใจ ผลกระทบทางจิตใจ ในบางครั้งมีความสำคัญมากกว่าทางร่างกายเสียอีก
สังคมปัจจุบัน ข้อมูลข่าวสาร ถึงกันได้อย่างรวดเร็วมาก มีการสื่อทางสื่อสังคมออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว ในบางข่าวจะมีความจริงเพียงเล็กน้อยและใส่ความเห็นเป็นจำนวนมาก 

 

 

ความเห็นจะมีแนวโน้มเอียง หรือมีอคติได้ ข้อมูลที่ได้จากสื่อสังคม จะต้องพิจารณาแยกแยะให้ได้

สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยวันที่ 12 มกราคม 2565 นั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขพบว่า 

 

วันนี้ 12 มกราคม 2565

 

 

  • ติดเชื้อเพิ่ม 7681 ราย (PCR)
  • ติดในระบบ 7282 ราย
  • ติดจากตรวจเชิงรุก 110 ราย
  • ติดในสถานกักตัว 277 ราย
  • ติดในเรือนจำ 19 ราย
  • สะสมระลอกที่สี่ 68,855 ราย
  • สะสมทั้งหมด 2,292,290 ราย
  • รักษาหาย 3350 ราย

 

 

สถานการณ์โควิด-19

 

 

  • สะสมระลอกสี่ 35,641 ราย
  • รักษาตัวอยู่ 66,286 ราย
  • โรงพยาบาลหลัก 37,313 ราย
  • โรงพยาบาลสนาม 24,672 ราย
  • แยกกักที่บ้าน 3467 ราย
  • อาการหนัก 480 ราย
  • ใช้เครื่องช่วยหายใจ 108 ราย
  • เสียชีวิต 22 ราย
  • สะสมระลอกสี่ 174 ราย
  • สะสมทั้งหมด 21,872 ราย
  • ติดเชื้อเข้าข่าย 2048 ราย(ATK)
  • สะสมระลอกสี่ 19,072 ราย
  • ติดโควิดรวม 97,029 ราย(PCR +ATK)
  • สะสมระลอกสี่ 80,246 ราย