“กรมเจ้าท่า” ขึ้นค่าโดยสารเรือประเภทไหนบ้าง-ราคาเท่าไร เช็คที่นี่

11 ม.ค. 2565 | 15:34 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ม.ค. 2565 | 23:00 น.
2.6 k

“กรมเจ้าท่า” เปิดสาเหตุขึ้นค่าโดยสารเรือด่วนคลองแสนแสบเพิ่ม 1 บาท หลังผู้ประกอบกาดโอดแบกต้นทุนไม่ไหว เหตุโควิดพ่นพิษ-ราคาน้ำพุ่ง กระทบประชาชนใช้บริการลดลง 5 เท่า เผยอัตราค่าโดยสารเรือด่วนเจ้าพระยา-เรือข้ามฟาก

นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปลอดภัย (จท.) เปิดเผยว่า กรณีที่เรือคลองแสนแสบปรับขึ้นราคาอีก 1 บาท และจะมีผลตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2565 นั้น เนื่องจากเดิมในสถานการณ์ปกติจะมีประกาศคณะกรรมการเรือประจำทาง ปี 2559 กำหนดให้ค่าโดยสาร สามารถปรับขึ้นลงตามอัตราราคาน้ำมัน เมื่อเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา พบว่าราคาน้ำมันอยู่ที่ 24 บาท และมีอัตราค่าโดยสารของเส้นทางคลองแสนแสบ เริ่มต้นที่ 8 บาท แต่ด้วยสถานการณ์ในช่วงโควิด-19 ระบาด รัฐบาลขอความร่วมมือประชาชนให้ปฏิบัติงานอยู่ที่บ้านและขอความร่วมมือลดการเดินทางโดยไม่จำเป็น ส่งผลให้ยอดผู้โดยสารเรือคลองแสนแสบ ลดลงอย่างมาก เหลือเพียง 10 %ต่อวัน ทำให้การเดินเรือประจำทางประสบภาวะขาดทุนอย่างหนักและไม่สามารถเดินเรือได้ตามปกติ

 

 

 

 ส่วนอัตราค่าโดยสารเรือด่วนเจ้าพระยาและเรือข้ามฟากนั้น ทางกรมเจ้าท่าไม่มีมติให้ปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารในปี 2565 โดยปัจจุบันตามประกาศกำหนดให้ตรึงราคาน้ำมันคงที่อยู่ที่ 25 บาทต่อลิตร เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการเอกชนปรับขึ้นค่าโดยสารเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นภาระต่อประชาชน ขณะนี้ยืนยันว่าผู้ประกอบการเรือด่วนเจ้าพระยาและเรือข้ามฟากยังไม่มการเจรจาขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารแต่อย่างใด ทั้งนี้หากปรับขึ้นค่าโดยสารเพิ่มเติม กรมฯต้องประเมินจากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายหลักของกิจการในการให้บริการเดินเรือสาธารณะแก่ประชาชน

 

 

 

นายภูริพัฒน์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาบริษัทครอบครัวขนส่ง จำกัด ผู้ดูแลการให้บริการเรือคลองแสนแสบ ได้ประสานและขออนุญาตกรมเจ้าท่า ปรับขึ้นราคาจากเดิมเริ่มต้นที่ 8 บาท ปรับเป็นเริ่มต้นที่ 9 บาท ตามประกาศกรมเจ้าท่าที่ 68/2563 เรื่อง กำหนดอัตราค่าโดยสารเรือกลประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเป็นการเฉพาะและชั่วคราวตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยก่อนหน้านี้ บริษัท ครอบครัวขนส่ง จำกัด ให้ความร่วมมือไม่ปรับขึ้นค่าโดยสารเพื่อช่วยลดภาระของผู้โดยสาร แต่จากสถานการณ์ปัจจุบันราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นเกินกว่าลิตรละ 25 บาท ทำให้กรมเจ้าท่าสามารถจัดเก็บค่าโดยสารได้ที่ 9 บาท ตามเกณฑ์กรอบอัตราค่าโดยสารที่กรมเจ้าท่าได้กำหนดไว้ สอดคล้องตรงกับประกาศกรมเจ้าท่าที่ 68/2563

“ปัจจุบันบริษัทครอบครัวขนส่งประสบปัญหาการขาดทุนราว 3-5 ล้านบาทต่อเดือน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อเนื่อง ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณผู้โดยสารใช้บริการลดลงอยู่ที่ 9,000 คนต่อวัน หรือลดลง 5 เท่า จากเดิมที่มีปริมาณผู้โดยสารให้บริการอยู่ที่ 50,000 คนต่อวัน”

 

“กรมเจ้าท่า” ขึ้นค่าโดยสารเรือประเภทไหนบ้าง-ราคาเท่าไร เช็คที่นี่

 

ทั้งนี้การเก็บค่าโดยสารเพิ่มขึ้นอีก 1 บาท จะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถเดินเรือประจำทางได้ตามกฎหมายที่กำหนดไว้ โดยกรมเจ้าท่าจะพยายามหาแนวทางในการแก้ไขปัญหากับภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อลดผลกระทบกับประชาชนให้น้อยที่สุด หากสถานการณ์ปรับเปลี่ยนหรือราคาน้ำมันปรับลดลง ทำให้ผู้ประกอบการปรับลดอัตราค่าโดยสารลง เพื่อให้กระทบกับประชาชนที่เดินทางสัญจรทางน้ำน้อยที่สุด

 

 


สำหรับการกำหนดอัตราค่าโดยสารเรื่อด่วนคลองแสนแสบแบบคงที่ตามประกาศที่คณะกรรมการฯมีมติอนุมัติเห็นชอบนั้น กำหนดดังนี้ 1.ราคาน้ำมันดีเซล 17-21 บาทต่อลิตร สามารถจัดเก็บค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 7-17 บาทตามาระยะทาง 2.ราคาน้ำมันดีเซล21-25 บาทต่อลิตร จัดเก็บค่าโดยสารที่ 8-18 บาทตามระยะทาง 3. ราคาน้ำมันดีเซล 25-27 บาทต่อลิตร สามารถจัดเก็บค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 10-20 บาทตามาระยะทาง 4.ราคาน้ำมันดีเซล 29-31 บาทต่อลิตร สามารถจัดเก็บค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 11-21 บาทตามาระยะทาง 
 

ขณะที่อัตราค่าโดยสารของเรือด่วนเจ้าพระยายังคงคิดอัตราค่าโดยสารราคาเดิมตามประกาศที่กำหนดไว้ ดังนี้


1.เรือด่วนธงส้ม เส้นทางนนทบุรี-วัดราชสิงขร  ค่าโดยสารอยู่ที่15 บาทต่อเที่ยว ตลอดสาย
2.เรือด่วนธงเขียว เส้นทางสาทร-ปากเกร็ด ค่าโดยสารอยู่ที่ 13,20,32 บาทต่อเที่ยว ขึ้นอยู่กับระยะทาง
3.เรือด่วนธงเหลือง เส้นทางนนทบุรี-สาทร ค่าโดยสารอยู่ที่ 20 บาทต่อเที่ยว ตลอดสาย
4.เรือด่วนธงแดง เส้นทางนนทบุรี-สาทร  ค่าโดยสารอยู่ที่ 30 บาทต่อเที่ยว ตลอดสาย

 

“กรมเจ้าท่า” ขึ้นค่าโดยสารเรือประเภทไหนบ้าง-ราคาเท่าไร เช็คที่นี่

 


นอกจากนี้ส่วนอัตราค่าโดยสารเรือข้ามฟาก ดังนี้
1.เรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา กลุ่มที่ 1 (นนทบุรี-บางศรีเมือง, ท่าช้าง-วังหลัง, ท่าช้าง-วัดระฆัง, วังหลัง-ท่าพระจันทร์เหนือ, วังหลัง-มหาราช และราชวงศ์-ดินแดง) อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 3.50 (บาท/คน)

2. เรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา กลุ่มที่ 2 (โอเรียลเต็ล-วัดสุวรรณ และท่าเตียน-วัดอรุณ) อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 4 (บาท/คน)

3. เรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา กลุ่มที่ 3 (สี่พระยา-คลองสาน) อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 4.50 (บาท/คน)

4. เรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา กลุ่มที่ 4 (พระสมุทรเจดีย์-วิบูลย์ศรี และสะพานตากสิน (สาทร) ฝั่งพระนคร-ฝั่งธนบุรี) อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 5.50 (บาท/คน)

5. เรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา กลุ่มที่ 5 (ปากคลองตลาด-วัดกัลยาณมิตร-วัดกุฎีจีน) อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 6 (บาท/คน)

“กรมเจ้าท่า” ขึ้นค่าโดยสารเรือประเภทไหนบ้าง-ราคาเท่าไร เช็คที่นี่