ไทยพบผู้ติดเชื้อ"โอมิครอน"สะสมรวม1,145คนแล้ว

31 ธ.ค. 2564 | 18:52 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ม.ค. 2565 | 01:59 น.

ไทยพบผู้ติดเชื้อ ‘โอมิครอน’ เพิ่มอีก 211 คน รวมสะสม 1,145 คนแล้ว แพทย์แนะปรับแผนเข็มกระตุ้นรีบฉีดเข็ม 4 ด้วยวัคซีน mRNA เหตุจากวัคซีน ‘ซิโนแวค’ 2 เข็ม ตามด้วย ‘ไฟเซอร์’ หรือ ‘แอสตร้าฯ’ เข็ม 3 อาจรับมือ ‘โอมิครอน’ ไม่ได้

วันนี้(วันที่ 31 ธ.ค. 2564) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศไทย ว่า ข้อมูลสะสมตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. - 30 ธ.ค.64 พบผู้ติดเชื้อโอไมครอนรวม 1,145 ราย ในจำนวนนี้เป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศ 620 รายและติดในประเทศ 525 ราย

เฉพาะวันที่ 30 ธ.ค. 2564 ติดเชื้อ 211 ราย เป็นผู้มาจากต่างประเทศ 43 ราย ติดเชื้อในประเทศ 168 ราย พบแนวโน้มการติดในประเทศมากกว่ามาจากต่างประเทศ พื้นที่ที่พบเชื้อโอไมครอนมากที่สุดคือ เขตสุขภาพที่ 13 กรุงเทพฯ พบ 325 ราย, เขตสุขภาพที่ 7 พบมากที่ จ.กาฬสินธุ์ 309 ราย และเขตสุขภาพที่ 11 พบมากที่ จ.ภูเก็ต 

 

สำหรับผลการดำเนินงานการรับผู้เดินทางเข้าไทย ตั้งแต่วันที่ 1-30 ธ.ค. 2564 มีผู้ที่เดินทางเข้าไทยทั้งหมด 282,197 รายตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1,159 ราย จำแนกได้ ดังนี้

 

  • กลุ่ม Test&Go จำนวน 235,355 ราย ติดโควิด 820 ราย
  • กลุ่ม Sandbox จำนวน 40,386 ราย ติดโควิด 132 ราย
  •  กลุ่ม Quarantine จำนวน 6,456 ราย ติดโควิด 207 ราย

 

ส่วนผู้ที่เดินทางเข้าไทยวันที่ 1-30 พ.ย. 2564 มีจำนวน 133,061 ราย ตรวจพบติดโควิด-19 จำนวน 171 ราย

 

ด้านศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล โพสต์เฟซบุ๊กระบุ 

 

“ผู้ที่เคยได้ CoronaVac ครบ 2 เข็ม แล้วได้รับ Pfizer vaccine booster เข็มสาม ก็อาจรับมือ Omicron ไม่ได้

 

ข่าวไม่ดีเท่าไหร่ครับ การศึกษาเผยแพร่ใน preprint เมื่อวานนี้โดยทีมนักวิจัยจาก Yale ทำการทดสอบภูมิคุ้มกันจากประชาชนชาว Dominican ซึ่งได้รับวัคซีนเชื้อตาย CoronaVac 2 เข็ม และได้รับวัคซีนกระตุ้นเข็มสามเป็น Pfizer vaccine นำมาวัดระดับ antibody และทดสอบ live virus neutralization assay กับเชื้อ original strain, Delta variant และ Omicron variant พบว่าระดับ antibody ของผู้ที่ได้วัคซีน 3 เข็มมีระดับสูงกว่าคนที่ได้ Pfizer vaccine ครบ 2 เข็มเพียง 1.4 เท่า และเมื่อทดสอบ neutralizing antibody กับเชื้อ 3 สายพันธุ์พบว่าระดับ antibody นั้นรับมือ original strain และ Delta ได้ แต่ไม่เพียงพอกับการยับยั้ง Omicron

 

นอกจากนี้การทดสอบเทียบระหว่างคนที่เคยติดเชื้อมาก่อนกับคนที่ไม่เคยติดเชื้อเลย แล้วได้วัคซีนครบ 3 เข็ม พบว่าระดับ antibody แทบไม่ต่างกัน หมายความว่าการได้รับ CoronaVac + Pfizer booster ไม่เห็น hybrid immunity หรือ super-immune แบบที่เกิดกับการได้รับ mRNA vaccine 3 เข็มที่มีการศึกษามาก่อนหน้านี้ 

 

ผลสรุปจากการศึกษานี้ ทำให้บ้านเราอาจต้องปรับแผน booster เพื่อรับมือ Omicron ใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลากรทางการแพทย์ที่ส่วนใหญ่ได้วัคซีนเชื้อตาย 2 เข็ม และได้ booster เข็มสาม (ไม่ว่าจะเป็น Pfizer หรือ AZ) ไปนานกว่า 4 เดือนแล้ว จำเป็นต้องรีบฉีดเข็มที่ 4 เป็น mRNA vaccine ส่วนประชาชนที่ได้วัคซีนสูตรที่มีเชื้อตายเป็นส่วนประกอบ (CoronaVac หรือ Sinopharm) อาจจำเป็นต้อง boost ด้วย mRNA vaccine 2 เข็ม แทนที่จะเป็นเข็มเดียวครับ

 

สำหรับการไม่พบปรากฏการณ์ hybrid immunity/super-immune ในการศึกษานี้ น่าจะเป็นเพราะทราบกันดีว่าวัคซีนเชื้อตาย กระตุ้นภูมิได้ไม่ดี โดยเฉพาะ cellular immunity ซึ่งกระตุ้นได้น้อยมาก ต่างจาก viral vector หรือ mRNA vaccine