อัพเดทยารักษา "โควิด-19" หมอมนูญแนะไทยสั่งซื้อเฉพาะ "แพกซ์โลวิด" เท่านั้น

27 ธ.ค. 2564 | 09:26 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ธ.ค. 2564 | 16:26 น.

อัพเดทยารักษาโควิด-19 หมอมนูญแนะไทยสั่งซื้อเฉพาะยาแพกซ์โลวิดเท่านั้น ชี้ประสิทธิภาพสูงกว่ายาโมลนูพิราเวียร์ ระบุหากได้รับใน 3 วัน นับตั้งแต่เริ่มมีอาการ ช่วยลดอาการรุนแรงจนต้องนอนโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตลง 89%

รายงานข่าวระบุว่า นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ (หมอมนูญ) ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว (หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC) โดยมีข้อความระบุว่า 
ระหว่างยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) กับแพกซ์โลวิด (Paxlovid)สำหรับรักษาโรคโควิด-19  ประเทศไทยควรจะเลือกสั่งซื้อและจองยาตัวไหน
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ( FDA) เพิ่งจะอนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ของบริษัทเมอร์ค สำหรับรักษาโรคโควิด-19 ถือเป็นการอนุมัติยาต้านไวรัสแบบเม็ดตัวที่ 2  ก่อนหน้านี้ FDA สหรัฐฯได้อนุมัติการใช้ยาแพกซ์โลวิดของบริษัทไฟเซอร์ ยาเม็ดชนิดกินตัวแรกสำหรับรักษาโรคโควิด-19 

แพกซ์โลวิด เป็นยาต้านไวรัสชนิดเม็ด ประกอบด้วยยาเนอร์มาเทรลเวียร์ (nirmatrelvir) ที่สามารถยับยั้งเอนไซม์โปรตีเอส (protease) ซึ่งเชื้อไวรัสต้องใช้ในการเพิ่มจำนวน และยาต้านไวรัสริโทนาเวียร์ (ritonavir) ซึ่งทำให้เนอร์มาเทรลเวียร์ อยู่ในร่างกายได้นานขึ้น

กลไกการรักษาของยาแพกซ์โลวิดแตกต่างกับยาโมลนูพิราเวียร์ซึ่งทำให้เกิดความผิดปกติในรหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด เวลาไวรัสก๊อบปี้ตัวเอง จะไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้ จึงทำให้มีจำนวนไวรัสในร่างกายในระดับต่ำและช่วยลดความรุนแรงของโรคได้
นักวิทยาศาสตร์กังวลว่ายาโมลนูพิราเวียร์อาจทำให้เกิดการผิดพลาด เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของรหัสพันธุกรรมของมนุษย์ด้วย ถึงแม้ว่าผลการทดลองเบื้องต้นพบว่า ยาโมลนูพิราเวียร์จะมีผลข้างเคียงต่ำ เทียบเท่ากับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก ผู้เชี่ยวชาญไม่แนะนำให้ใช้ในเด็กและหญิงตั้งครรภ์ การใช้โมลนูพิราเวียร์ในหญิงตั้งครรภ์มีโอกาสทำให้เกิด teratogenic effect ความพิการในเด็กทารก

ไทยควรจะเลือกสั่งซื้อและจองยาแพกซ์โลวิดเท่านั้น

ดังนั้นในกรณีเป็นผู้ป่วยหญิงวัยเจริญพันธ์ุ ควรตรวจภาวะการตั้งครรภ์ก่อนเริ่มยานี้ และห้ามให้ในกรณีที่ผู้ป่วยตั้งครรภ์และกำลังให้นมบุตร
นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ยังกังวลการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์นานๆ อาจก่อให้เชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ เกิดการดื้อยา ติดเชื้อแพร่ระบาดได้รวดเร็วขึ้น และหลบหลีกภูมิคุ้มกันจากการได้รับวัคซีน
 

รัฐบาลฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกที่เพิ่งประกาศยกเลิกคำสั่งซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ โดยกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสระบุว่าผลการทดสอบใช้งานกับอาสาสมัครจนครบเฟส 3 ให้ผลไม่เป็นที่น่าพอใจ ลดความเสี่ยงจากอาการป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาลและความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้เพียง 30% ต่างกับผลการทดสอบตอนที่ยุติการทดลองกับอาสาสมัครที่ระบุว่ามีประสิทธิภาพ 50%
ยาแพกซ์โลวิดมีประสิทธิภาพสูงกว่ายาโมลนูพิราเวียร์ หากได้รับยาภายใน 3 วัน นับตั้งแต่เริ่มมีอาการ ช่วยลดอาการรุนแรงจนต้องนอนโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตลง 89% หากรับยาภายใน 5 วัน ตั้งแต่เริ่มมีอาการ ประสิทธิผลจะอยู่ที่ 85% 
ประเทศไทยควรทำตามอย่างประเทศฝรั่งเศส ยกเลิกการสั่งซื้อและจองยาโมลนูพิราเวียร์ สั่งซื้อและจองเฉพาะยาแพกซ์โลวิดเท่านั้น
ทั้งนี้ " ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามสถานการณ์ของผู้ป่วยโควิด-19 (Covid-19) ที่กำลังรักษาตัวอยู่ในปัจจุบันจากกระทรวงสาธารณสุขพบว่า มีจำนวน 35,862 ราย แบ่งเป็นอยู่ในโรงพยาบาลหลักจำนวน 17,969 ราย อยู่ในโรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 18,166 ราย อาการหนัก 813 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 206 ราย