เปิดไทม์ไลน์!หญิงไทยติดเชื้อ“โอมิครอน”รายแรกในไทย

20 ธ.ค. 2564 | 14:07 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ธ.ค. 2564 | 03:44 น.
5.3 k

เปิดไทม์ไลน์!หญิงไทยติดเชื้อ“โอมิครอน”รายแรกในไทย เผยติดมาจากนักบินชาวโคลอมเบีย เดินทางมาจากไนจีเรีย ก่อนที่จะมีการประกาศห้ามบุคคลจาก 8 ประเทศในทวีปแอฟริกาเข้าไทย

สถานการณ์โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่ระบาดในประเทศไทยรายแรก นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองโรคระบาด กล่าวว่า รายดังกล่าว เป็นภรรยาที่ติดเชื้อจากสามีเป็นนักบินชาวโคลอมเบีย เดินทางมาจากไนจีเรียเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 ก่อนที่จะมีการประกาศห้ามบุคคลจาก 8 ประเทศในทวีปแอฟริกาเข้าไทย โดยไนจีเรียไม่ได้เป็น 1 ใน 8 ประเทศด้วย      

 

เปิดไทม์ไลน์!หญิงไทยติดเชื้อ“โอมิครอน”รายแรกในไทย

ไทม์ไลน์มีดังนี้ เป็นคู่สามีภรรยา โดยสามีเป็นนักบิน สัญชาติโคลัมเบีย ได้รับวัคซีนแอสตร้าฯ 2 เข็ม มีประวัติโรคเบาหวาน โดยวันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 เดินทางจากไนจีเรียเข้าไทย ผ่านระบบ sandbox ที่ กทม. ผลตรวจเบื้องต้น RT-PCR ไม่พบการติดเชื้อ หลังจากนั้น ก็อยู่ในระบบ sandbox ที่สามารถเดินทางออกนอกโรงแรมได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมกำกับ ประวัติเดินทาง เช่ารถมอเตอร์ไซค์ไปตรวจตาที่ รพ.แห่งหนึ่ง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และไม่พบเจอผู้อื่น มีประวัติไปซื้อของร้านค้าใกล้โรงแรม ทานข้าวเที่ยงที่ห้าง โดยสวมหน้าตลอดเวลา

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน อยู่ในโรงแรม ต่อมาวันที่ 1 ธันวาคม เข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ เข็ม3 ที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง หลังจากนั้น เริ่มมีไข้ตัวร้อน จึงตรวจ ATK  ผลเป็นลบ ต่อมาวันที่ 2 ธันวาคม จึงไปพบแพทย์ที่ รพ.อีกครั้ง โดยผลตรวจไวรัสอื่นให้ผลลบทั้งหมด ผลเอกซเรย์ปอดปกติ  และเมื่ออยู่ในระบบแซนด์บ็อกซ์ ครบ 7 วันตามโปรแกรมของการกักตัวที่โรงแรม ก็ไปส่งที่ห้าง

 

หลังจากนั้น ผู้ติดเชื้อคนดังกล่าวกลับบ้านที่ จ.ปทุมธานี อยู่กับภรรยา ต่อมาวันที่ 4 ธันวาคม เริ่มมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลียมากขึ้น ตรวจ ATK ผลยังเป็นลบอยู่

 

ต่อมาวันที่ 7 ธันวาคม อาการเริ่มเหนื่อยมากขึ้นแต่ยังมีสติ เดินทางได้ จึงไป รพ.ที่ไปฉีดวัคซีน ผลตรวจ RT-PCR เป็นบวก สรุป ภรรยาที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง กักตัวที่บ้าน วันที่ 10 ธันวาคม ไปตรวจ RT-PCR เป็นบวก วันเดียวกัน ผลของสามีออกมาว่า ติดเชื้อเป็นสายพันธุ์โอไมครอน จึงตรวจหาเชื้อโอไมครอนในภรรยาด้วย และยืนยันว่า เป็นโอไมครอนทั้งคู่  

 

ทำให้ ภรรยา จะเป็นคนแรกของประเทศไทย ที่ติดเชื้อจากสามีที่เดินทางจากต่างประเทศ นับเป็นการติดเชื้อโอไมครอนในประเทศรายแรก ส่วนผู้สัมผัสบนเครื่องบินของสามี ไม่มี เนื่องจากนั่งห่างกันตามมาตรการ

 

ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของภรรยารายนี้คือ คนขับแท็กซี่ไปส่งรพ. การตรวจ RT-PCR ให้ผลลบ และอยู่ระหว่างการกักตัว 14 วัน และตรวจยืนยันครั้งที่ 2 คาดว่าผลออกพรุ่งนี้ เบื้องต้น อาการของสามีขณะที่อยู่รพ. มีอาการเชื้อลงปอด อาการหนักขึ้น แต่ไม่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ล่าสุด อาการดีขึ้นแล้ว ส่วนภรรยา ได้รับวัคซีนแอสตร้าฯ 2 เข็มแล้ว และไม่มีอาการรุนแรงอะไร

 

ไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโอมิครอน

 

  • วันที่ 26-27 พ.ย.2564 เดินทางจากไนจีเรียถึงไทย ตรวจRT-PCR   ไม่พบเชื้อ และเข้าพักในโรงแรมแห่งหนึ่งกทม.ระบบแซด์บ็อกซ์

 

  • 29 พ.ย.2564  ไปตรวจตาที่รพ.เอ สวมหน้ากากตลอด เช่ารถขับเอง ซื้อของร้านค้าใกล้โรงแรม  ขับรถทานข้าวเที่ยงที่ห้าง

 

  • 30พ.ย.2564 อยู่โรงแรมตลอด

 

  • 1 ธ.ค.2564 ไปฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เข็ม 3 ที่รพ.บี ขับรถเช่าเอง หลังจากฉีดมีไข้ ตัวร้อน

 

  • 2 ธ.ค.2564 ตรวจATK เป็นลบ ที่โรงแรม เนื่องจากยังมีไข้ ไปพบแพทย์ที่รพ.เอ ผลตรวจไข้เลือดออก และมาลเรีย ไม่พบเชื้อ เอ็กซเรย์ปอด เป็นปกติ

 

  • 3 ธ.ค.2564  ออกจากโรงแรมที่กักตัว รถโรงแรมมาส่ง ห้าง แวะร้านสะดวกซื้อ และส่งกลับบ้าน ที่อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี  ขณะมีไข้ภรรยาดูแลตลอด

 

  • 4-6 ธ.ค.2564 อยู่บ้าน มีไข้ ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลีย ภรรยาดูแลคนเดียว

 

  • 6 ธ.ค.2564 ตรวต ATK ผลเป็นลบ

 

  • 7 ธ.ค.2564 อาการไม่ดีขึ้น ไข้ เหนื่อย ภรรยาพาไป รพ.บี นั่ง แท็กซี่ไป ผลตรวจ พบเชื้อ แพทย์สงสัยโอมิครอน จึงส่งตรวจสายพันธุ์ ตัวผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในรพ. ภรรยานั่งรถกลับบ้านกักตัวที่บ้าน 

 

  • 10 ธ.ค.2564  ภรรยาไปรับการตรวจโควิดที่รพ.ซี ผลพบเชื้อ ผลตรวจสายพันธุ์สามีเป็นโอมิครอน

 

  • 12-19 ภรรยารับการรักษาที่รพ.ซี ต่อมาผลตรวจสายพันธุ์เป็นโอมิครอน เป็นรายแรกของประเทศที่ติดเชื้อจากผู้เดินทางเข้าประเทศ