“นิพนธ์"ดันงบ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เน้นแก้ความยากจนในพื้นที่

27 พ.ย. 2564 | 14:18 น.
อัปเดตล่าสุด :27 พ.ย. 2564 | 21:21 น.

"นิพนธ์"ดันงบ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เน้นโครงการแก้ไขปัญหาความยากจนในพื้นที่ พร้อมเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 65

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 ที่โรงแรมบุรีศรีภู คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์  อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา  นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานกลั่นกรองแผนงานโครงการ อ.ก.บ.ภ.ภาคใต้ และภาคใต้ชายแดน เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพิจารณากลั่นกรองแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน (กลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส)โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยคณะทำงานช่วยอำนวยการฯ สำนักงบประมาณกระทรวงมหาดไทย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เข้าร่วมประชุม

 

นายนิพนธ์ กล่าวว่า วันนี้ได้เน้นย้ำให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพ เนื่องจากผลการเบิกจ่ายงบประมาณจะถูกนำไปใช้เป็นองค์ประกอบในการพิจารณาวงเงินงบประมาณของจังหวัดในปีต่อไป 

โดยได้มอบนโยบายการดำเนินงานให้กับจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ขอให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพและแก้ไขปัญหาของพื้นที่มีการรับฟังข้อเสนอและข้อคิดเห็นของภาคีการพัฒนาที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพและการแก้ไขของพื้นที่ เน้นหนักกลุ่มคนรุ่นใหม่ 

 

เช่น พ่อแม่เป็นเกษตรกร ส่วนลูกขายออนไลน์ พัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่า สนับสนุนให้เขาสามารถเป็นเจ้าของกิจการให้ได้ 

ในภาคเกษตร เน้นการแปรรูปเพิ่มมูลค่าสินค้า นำเทคโนโลยีและข้อมูลมาใช้ เพื่อทำการตลาดและการค้าออนไลน์ สร้างโมเดลการค้าใหม่ให้เกิดขึ้นสามารถยกระดับรายได้เกษตรกร หรือยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน

 

รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นให้มากยิ่งขึ้น โดยการจัดการศึกษาดูงาน การจัดประชุม อบรม และสัมมนาในโรงแรมในพื้นที่จังหวัด เพื่อสร้างงานสร้างรายได้ให้กับสถานประกอบการ ธุรกิจขนาดเล็ก

 

จังหวัดควรหาแนวทางในการดำเนินงานเกี่ยวกับการป้องกันและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อให้สามารถดำเนินการช่วยเหลือต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้สร้างช่องทางการตลาด

 

ทั้งนี้ให้ถอดบทเรียนในการเบิกจ่ายงบประมาณที่ผ่านมา ให้เล็งเห็นถึงปัญหาในพื้นที่เริ่มจากการแก้ปัญหาความยากจนก่อนจึงจะทำให้ภาคส่วนต่างๆ สามารถดำเนินต่อไปได้ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญในการขจัดความยากจน โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงการพัฒนาคนทุกช่วงวัย เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี

 

และดูเรื่องการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณของแต่ละจังหวัด หากไม่มีความจำเป็นก็ไม่ควรมีการโอนเปลี่ยนแปลงโครงการและงบประมาณ ซึ่งจังหวัดควรให้ความสำคัญกับโครงการที่สนับสนุนการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และลดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเริ่มตั้งแต่การสร้างจิตสำนึกที่ดี การสร้างระเบียบวินัยในการขับขี่ให้กับประชาชนในท้องถิ่น