จัดวัคซีน 7 แสนโดส ปูพรมฉีดเชียงใหม่ครอบคลุม 100% พ.ย. นี้

30 ต.ค. 2564 | 19:54 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ต.ค. 2564 | 03:06 น.
1.5 k

"อนุทิน" สั่งมาตรการเข้มป้องกันและควบคุมโรคโควิด 19 เชียงใหม่ ที่ยังพบการระบาดหนัก จัดวัคซีน 7 แสนโดสเร่งฉีดประชาชนครอบคลุมทั้งจังหวัด 100% ภายในพ.ย.นี้ พร้อมเพิ่มการจัดทำ Covid Free Setting เพื่อสร้างความมั่นคงปลอดภัย รองรับการเปิดประเทศ

วันนี้ (30 ตุลาคม 2564) ที่ จังหวัดเชียงใหม่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นำคณะผู้บริหารลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์โควิด 19  ที่ตลาดเมืองใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ และประชุมบูรณาการการดำเนินงานควบคุมโรคร่วมกับหน่วยงานราชการในพื้นที่พร้อมสนับสนุนชุดตรวจ ATK ให้กับจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 40,000 ชุด เพื่อตรวจคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยง

จัดวัคซีน 7 แสนโดส ปูพรมฉีดเชียงใหม่ครอบคลุม 100% พ.ย. นี้

นายอนุทิน เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยสถานการณ์ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ยังพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และกำลังจะเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยว ได้กำชับให้ติดตามการป้องกันควบคุมโรคเป็นพิเศษ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน โดยจากรายงานการแพร่ระบาดของจังหวัดเชียงใหม่ครั้งนี้ พบเป็นสายพันธ์ุเดลต้า 100% ในชุมชน โรงงาน โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในตลาด แล้วนำไปแพร่ต่อในครอบครัวและชุมชน ข้อมูลล่าสุด 29 ตุลาคม 2564 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 414 ราย ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับการแพร่ระบาดในช่วงแรก ถือว่าเรามีความพร้อมกว่ามาก ทั้งประสบการณ์ ยา เวชภัณฑ์ โดยเฉพาะวัคซีนที่บริษัทผู้ผลิตส่งมอบอย่างต่อเนื่อง และมีการปรับสูตรฉีดแบบไขว้ทำให้ได้ภูมิคุ้มกันในระดับที่สูงและเร็วขึ้น 

จัดวัคซีน 7 แสนโดส ปูพรมฉีดเชียงใหม่ครอบคลุม 100% พ.ย. นี้

ปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่ฉีดวัคซีนไปแล้ว 1,061,881 คน หรือราว 61.4% ของประชากรทั้งหมด ความสามารถในการฉีดไม่ต่ำกว่า 25,000 คนต่อวัน ล่าสุด ได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรค จัดส่งวัคซีนเพิ่มอีก 7 แสนโดส เพื่อฉีดประชากรทั้งจังหวัดครอบคลุม 100% ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งในที่นี้รวมถึงการฉีดเพิ่มเติมในกลุ่มต่างชาติ ชนเผ่า เพื่อให้เชียงใหม่เป็นเมืองที่ปลอดภัย การใช้ชีวิตและภาคเศรษฐกิจเดินหน้าต่อได้ รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก

สำหรับความพร้อมด้านการดูแลรักษาผู้ป่วย ขณะนี้มีผู้ที่อยู่ระหว่างการรักษา 3,999 ราย เป็นกลุ่มสีเขียว 3,340 ราย กลุ่มสีเหลือง 571 ราย และผู้ป่วยอาการหนักกลุ่มสีแดง 88 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในระบบ CI ที่มีอยู่ในทุกอำเภอ รวม 2,023 ราย ภาพรวมเตียงผู้ป่วยสีเหลืองและแดงยังรองรับได้ แต่หากเกินศักยภาพในพื้นที่ จะส่งต่อรักษาจังหวัดในเครือข่ายเขตสุขภาพที่ 1 อาทิ ลำพูน ลำปาง 

นอกจากนี้ ได้มอบนโยบายให้เพิ่มระบบการดูแลแบบ HI ในผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อย เพื่อให้มีเตียงในโรงพยาบาลเพียงพอสำหรับดูแลผู้ป่วยที่มีอาการปานกลางถึงหนักได้มากขึ้น ทั้งนี้ ได้จัดสิ่งสนับสนุนทั้งยา เวชภัณฑ์ เครื่องผลิตออกซิเจน และครุภัณฑ์การแพทย์ให้เพิ่มเติม นอกจากการดูแลด้านร่างกายแล้ว พบว่า โรงพยาบาลจิตเวชสวนปรุง ยังให้การดูแลสุขภาพจิตควบคู่กับการรักษาสุขภาพกาย โดยจัดหอผู้ป่วยโควิด 19 ดูแลผู้ติดเชื้อเป็นครอบครัว รวม 18 ครอบครัว และดูแลผู้ติดเชื้อกลุ่มจิตเวชด้วย

ด้านนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ที่ผ่านมาเชียงใหม่เคยมีการแพร่ระบาดมาแล้วหลายระลอกและสามารถควบคุมโรคได้ดี การระบาดระลอกนี้เป็นช่วงขาขึ้น สิ่งสำคัญคือ ทุกภาคต้องส่วนร่วมมือกันป้องกันควบคุมโรค โดยภาคประชาชน ต้องเข้มงวดการป้องกันตัวเองขั้นสูงสุด (Universal Prevention) ภาคเอกชน ต้องเพิ่มการจัดทำ Covid Free Setting ในพื้นที่ต่าง ๆ และมีการตรวจคัดกรองเชิงรุกด้วย ATK ในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งหากทุกฝ่ายร่วมมือกันมั่นใจว่าเชียงใหม่จะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้สำเร็จและเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย