โควิดชลบุรี ลดลงต่อเนื่องติดเชื้อรายใหม่วันนี้ 245 ราย เสียชีวิต 2 ราย

26 ต.ค. 2564 | 07:15 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ต.ค. 2564 | 14:16 น.

โควิดชลบุรี อัพเดตสถานการณ์ผู้ติดเชื้อลดลงต่อเนื่อง วันนี้มีรายใหม่เพิ่ม 245 ราย มาจากคลัสเตอร์คนจังหวัดระยองเข้ามารักษา 21 ราย และคลัสเตอร์ทหารเรือ 11 ราย ยอดกำลังรักษาเหลือ 5,746 ราย รักษาหายสะสม 93,039 ราย

26 ต.ค. 64 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี (สสจ.ชลบุรี) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประจำวัน วันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 245 ราย ป่วยสะสม 99,486 ราย รักษาหายเพิ่ม 514 ราย รักษาหายสะสม 93,039 ราย กำลังรักษา 5,746 ราย เสียชีวิต 2 ราย เสียชีวิตสะสม 701 ราย

 

รายละเอียดการติดเชื้อโควิด-19

1. คนที่พักอาศัยในจังหวัดระยอง เข้ามารักษาในจังหวัดชลบุรี 21 ราย สะสม 4,303 ราย และจังหวัดอื่นๆรวมสะสม 1,734 ราย
2. Cluster เขตพื้นที่ทหารเรือ อำเภอสัตหีบ 11 ราย สะสม 1,334 ราย
   2.1 ข้าราชการทหารเรือ 8 ราย
   2.2 ทหารเกณฑ์ 3 ราย
3. Cluster บริษัท ชอง อิล (ไทยแลนด์) จำกัด อำเภอศรีราชา 4 ราย สะสม 35 ราย
4. อาชีพเสี่ยงพบปะผู้คนจำนวนมาก 6 ราย
5. บุคลากรทางการแพทย์ 1 ราย
6. ให้ประวัติเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงต่างจังหวัด 
    6.1 จังหวัดระยอง 5 ราย
    6.2 จังหวัดสมุทรสาคร 2 ราย
7. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
    7.1 ในครอบครัว 85 ราย
    7.2 จากสถานที่ทำงาน 35 ราย
    7.3 บุคคลใกล้ชิด 6 ราย
    7.4 ร่วมวงสังสรรค์ 1 ราย
8. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน (อยู่ระหว่างสอบสวนโรค) 19 ราย 
9. อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 49 ราย

 

โควิดชลบุรี  ลดลงต่อเนื่องติดเชื้อรายใหม่วันนี้ 245 ราย เสียชีวิต 2 ราย

 

รายละเอียดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19

 

ขณะนี้ยังคงมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว และเป็นผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน  โดยรายงานผู้เสียชีวิตรายใหม่ทั้ง 2 รายของวันนี้ เป็นผู้สัมผัสในครอบครัวของผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า มีปัจจัยเสี่ยงร่วมที่ทำให้ความรุนแรงของโรคที่นำไปสู่การเสียชีวิต คือ เป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง และทั้งสองรายไม่พบประวัติการรับวัคซีน ดังนั้น การฉีดวัคซีนจะช่วยป้องกันไม่ให้ป่วยหนัก ผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรังควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 เนื่องจากบุคคลกลุ่มนี้มีอัตราป่วยหนักหรือเสียชีวิตจากโรคโควิด 19 มากกว่ากลุ่มอื่น