“นิพนธ์”ล่องใต้รุดหารือแผนป้องกันน้ำท่วมพัทลุง กำชับลดอุบัติเหุตทางถนน

20 ต.ค. 2564 | 19:40 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ต.ค. 2564 | 18:14 น.

“นิพนธ์”ล่องใต้รุดหารือแผนป้องกันน้ำท่วมพัทลุง  ย้ำทุกฝ่ายต้องมีแผนเผชิญเหตุ ทั้งระบบเตือนภัยแจ้งเหตุ และพร้อมช่วยชาวบ้าน ยึดหลัก “สร้างที่ให้น้ำอยู่ ทำทางให้น้ำไหล” พ่วงลดการสูญเสียชีวิตบนท้องถนน ให้ อปท.เป็นเจ้าภาพ

 

วันที่ 20 ตุลาคม 2564  ที่ศาลากลางจังหวัดพัทลุง นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย(รมช.มท.) เป็นประธานมอบนโยบายเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย รวมถึงความปลอดภัยทางถนนจังหวัดพัทลุง มีนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

 

นายนิพนธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมวางแผนป้องกันอุทกภัยในช่วงฤดูมรสุมในภาคใต้ ควมถึงแผนเผชิญเหตุอุทกภัยต้องสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะการเร่งขุดลอกท่อระบายน้ำ กำจัดขยะ และสวะสิ่งกีดขวางทางน้ำไหลยึดหลักสร้างที่ให้น้ำอยู่ ทำทางให้น้ำไหล เพื่อรองรับน้ำและระบายน้ำได้มีประสิทธิภาพ

                 “นิพนธ์”ล่องใต้รุดหารือแผนป้องกันน้ำท่วมพัทลุง กำชับลดอุบัติเหุตทางถนน    “นิพนธ์”ล่องใต้รุดหารือแผนป้องกันน้ำท่วมพัทลุง กำชับลดอุบัติเหุตทางถนน

                         

 

รวมถึงแผนป้องกันพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจ สถานที่สำคัญ เช่น โรงพยาบาล ศาสนสถาน โดยต้องตรวจสอบความพร้อมของวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักรกลช่วยด้านสาธารณภัย เครื่องมือสื่อสาร เครื่องมือแจ้งเตือนภัย ให้พร้อมใชงานตลอดเวลา ที่สำคัญต้องกำหนดพื้นที่ปลอดภัย เส้นทางการอพยพ และศูนย์พักพิงชั่วคราว

              “นิพนธ์”ล่องใต้รุดหารือแผนป้องกันน้ำท่วมพัทลุง กำชับลดอุบัติเหุตทางถนน    

 

โดยต้องซักซ้อมเจ้าหน้าที่และประชาชนถึงแนวทางปฏิบัติเพื่อสร้างการรับรู้ไม่ให้สับสนหากเกิดอุทกภัย ต้องเตือนให้ประชาชนรู้ข่าวในทุกช่องทาง เช่น สื่อสังคมออนไลน์ วิทยุชุมชน หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน ขอย้ำว่า ให้เจ้าหน้าที่อำเภอและเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)ในพื้นที่เสี่ยงภัยต้องพร้อมป้องกัน ช่วยเหลือและแจ้งเตือนประชาชนทันสถานการณ์ทันที ที่สำคัญคือต้องช่วยเหลือประชาชนให้ปลอดภัยในชีวิต เป็นสำคัญ

 

“ส่วนการลดอุบัติเหตุทางถนนตามแผนความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.จังหวัด) เป็นยุทธศาสตร์หนึ่งของจังหวัดและเป็นวาระเร่งด่วนของจังหวัด ที่อำเภอและส่วนท้องถิ่นต้องร่วมมือป้องกันและแก้ไขโดยลดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ให้ได้

                          

โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)เป็นเจ้าภาพหลักในการลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ มอบหมายให้แต่ละหน่วยงานวิเคราะห์สาเหตุหลักการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่รับผิดชอบ และเร่งปรับปรุงแก้ไขจุดเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน ควบคู่การขอความร่วมมือจากประชาชน และทุกภาคส่วนให้ร่วมขับเคลื่อนในการป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มข้นโดยยึดหลัก “สร้างตำบลต้องขับขี่ปลอดภัย”  ทําให้ทุกตำบลในประเทศไทยปลอดภัย  ประชาชนก็จะสามารถขับขี่ปลอดภัยสามารถลดความสูญเสียชีวิตเท่ากับเป็นการรักษาทรัพยากรบุคคลและทรัพย์สินอื่นๆ ได้