พอช.ลุยแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย-ที่ทำกิน "กลุ่มชาติพันธ์ชาวเล-ชาวกะเหรี่ยง"

เมื่อวันที่ 29 ก.ย.เวลา 09.00 น.นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  (พม.)มอบหมายให้นายสยาม นนนท์คำจันทร์ โฆษกสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน เป็นผู้แทนกระทรวงพม. เข้าร่วมประชุมคณะทำงานติดตามการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำกินและพื้นที่ทางจิตวิญญาณของกลุ่มชาติพันธ์ุชาวเลและชาวกะเหรี่ยง

ในคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำกินและพื้นที่ทางจิตวิญญาณของกลุ่มชาติพันธ์ุชาวเลและชาวกะเหรี่ยง ของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบวีดีทัศน์ทางไกล

โดยมีนายพงศ์บุณย์ ปองทอง รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านทรัพยากรธรรมชาติ เป็นประธานการประชุมด้วย
 

โดยนายสยาม กล่าวว่า  การประชุมในวันเดียวกันนี้มีวาระเพื่อพิจารณากรณีขอให้ประกาศขอบเขตที่ทำกินของชาวเลเส้นทางหากินดั้งเดิมในทะเลของชาวทะเลอันดามัน 5 จังหวัด โดยการจัดหาด้วยเครื่องมือดั้งเดิม 17 ชนิดที่ไม่ทำลายร้างและจุดตั้งเพิงพักจับปลาตามฤดูกาลตามวิถีของการใช้ทะเลหมุนเวียนของกลุ่มชาติติพันธ์ชาวเลในพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีการไปประกาศป้ายให้รื้อถอน จุดดังกล่าวในพื้นที่ภูเก็ต กระบี่  

ซึ่งที่ประชุมมีมติให้หน่วยงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปดูข้อเท็จจริงในพื้นที่ร่วมกันของทุกฝ่าย ทั้งกรมอุทยานฯ กระทรวงวัฒนธรรม กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.)ให้ครอบคลุมการแก้ไขปัญหาใน 14 พื้นที่ และหลังมรสุมผ่านแล้ว ให้มีข้อสรุปภายใน 6 เดือน  

ขณะเดียวกันการขับเคลื่อนการดำเนินนโยบายฟื้นฟูวิถีชาวเลและชาวกะเหรี่ยง จะต้องบูรณาการทำงานหลายหน่วยงาน

นายสยาม กล่าวต่อว่า  นอกจากนี้ การติดตามการขออนุญาต ในพื้นที่ดอยช้างป่าแป้ อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน เพื่อเป็นเขตวัฒนธรรมพิเศษ ที่ประชุมมอบหมายให้นายจงคล้าย วรพงศธร  ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะว่าที่รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ติดตามการขออนุญาตใช้ต่อไป

รวมถึงการติดตามการขออนุญาตของชุมชนโต๊ะบาหลี ที่จะใช้ไฟฟ้าประปา ที่จะต้องเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)ภายในก่อนสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ มาตราการช่วยเหลือชุมชนหาดราไวย์ จ.ภูเก็ต ตามโครงการช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งจะได้ประสานสำนักงานสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.)ภาคใต้เข้าไปให้การช่วยเหลือ

และการช่วยเหลือโดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในมาตรการช่วยเหลือกลุ่มเปาะบางในภาวะโควิด-19โดยจะประสานให้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จ.ภูเก็ตลงพื้นที่ติดตามต่อไปด้วย.