กระทรวงวัฒนธรรม นำทัพเปิดตัวThai Taste Therapy กินอาหารไทยเป็นยา

14 ก.ย. 2564 | 17:07 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ก.ย. 2564 | 00:23 น.

กระทรวงวัฒนธรรม นำร่องยกระดับอาหารไทย ผนึกกำลังภาครัฐและเอกชน หนุนส่งออกวัฒนธรรมอาหารไทย Thai Taste Therapy อาหารไทยเป็น “ยาที่อร่อยที่สุดในโลก” เจาะตลาดคนรักสุขภาพทั่วโลก

นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เปิดเผยว่า “กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ได้ขึ้นทะเบียนอาหารไทย 20 รายการ เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม อาทิ ต้มยำกุ้ง แกงเผ็ด แกงพุงปลา แกงเขียวหวาน ส้มตำ เป็นต้น และในอนาคตเราตั้งใจที่จะขึ้นทะเบียนอาหารไทยอีกหลายรายการ การจะสืบสานวัฒนธรรมให้ยั่งยืนนั้นต้องได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย เช่น มรดกภูมิปัญญาก็ต้องมีชุมชนหรือชาวบ้านที่เป็นเจ้าของมรดกมาต่อยอด

 

ล่าสุด ร่วมมือกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชนจัดโครงการไทยเทสเทอราปี (Thai Taste Therapy) ขึ้นเพื่อยกระดับวัฒนธรรมอาหารไทยสู่นานาชาติด้วยการนำเสนอคุณประโยชน์ของอาหารไทยในมิติของสรรพคุณทางยาที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพซึ่งนับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทำโครงการ ฯ นี้ ที่สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่ทุกคนใส่ใจเรื่องการกินมากขึ้น อาหารไทยคือ Soft Power ที่มีศักยภาพในการเข้าถึงนานาประเทศ ผมมั่นใจว่าโครงการไทยเทสเทอราปี (Thai Taste Therapy) จะตอกย้ำให้ทั่วโลกเชื่อมั่นเรื่องความอร่อยของอาหารไทยและยังสร้างมุมมองใหม่ที่ว่า อาหารไทยเป็น “ยาที่อร่อยที่สุดในโลก" ได้แน่นอน”

พญ. อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า  “อาหารไทยมีองค์ประกอบเป็นสมุนไพรไทยพื้นบ้านอยู่มากมายทั้งอร่อยและมีคุณค่าต่อสุขภาพ และยังมีสารสำคัญมากมายที่ช่วยส่งเสริมดูแลสุขภาพ ซึ่งทำให้ อาหารไทยเป็น “ยาที่อร่อยที่สุดในโลก” อย่าลืมดูแลให้มีสมุนไพรในมื้ออาหารของอาหารไทย เพื่อจะส่งเสริมเรื่องราวตรงนี้ให้กว้างไกลไปทั่วโลก”

 

ด้านนาย โชค ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ทางธนาคารกรุงเทพพร้อมสนับสนุนให้ลูกค้าบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพได้ทราบถึงประโยชน์ของอาหารไทย Thai Taste Therapy ที่สำคัญธนาคารกรุงเทพ ร่วมมอบความพิเศษให้ลูกค้าบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ เมื่อไปรับประทานอาหารทุกร้านอาหารไทยที่ร่วมรายการนี้ จะได้รับส่วนลด 50% สำหรับเมนู Thai Taste Therapy และส่วนลดเพิ่มเติมสำหรับเมนูอื่น ๆ และยิ่งไปกว่านั้น ลูกค้ายังสามารถใช้คะแนนสะสมในบัตรแลกรับเครดิตเงินคืนเพิ่มได้อีก 10%”

ส่วนนางสาวไอริณ ฤกษะสาร ผู้บริหารโครงการไทยเทสเทอราปี (Thai Taste Therapy) ให้ข้อมูลว่า “เฟสที่ 1 ของโครงการ ฯ  เราได้เชิญเชฟชื่อดังระดับเวิลด์คลาส อาทิ เชฟมาดามนูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ เจ้าของร้านอาหารบลู เอเลเฟ่นท์ ร้านอาหารไทยที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก เชฟแอนดี้ ยังเอกสกุล เชฟมิชลินสตาร์อาหารไทย 1 ดาว คนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์อาหารไทยจากสหรัฐอเมริกา เชฟอรรถพล ไนโต ถังทอง อดีตรางวัลเหรียญทองเชฟโอลิมปิก Executive Chef โรงแรมแมริออท เดอะ สุรวงศ์ และสุดยอดเชฟแห่งปีในเครือแมริออททั่วโลก และเชฟชื่อดังอีกหลายสิบท่านมาร่วมสร้างสรรค์เมนูอาหารไทยที่มีคุณประโยชน์ทางยาและส่งเสริมสุขภาพ

 

พร้อมจับมือกับร้านอาหารไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ เปิดขายเมนูอาหาร ไทยเทสเทอราปี 3 เมนู ได้แก่ เมนูเสริมภูมิคุ้มกันต้านโควิดเมนูอาหารจากกัญชา&กระท่อม และ เมนูสมุนไพรพื้นถิ่นของไทย โดยสามารถเยี่ยมชมและสั่งร้านอาหาร Thai Taste Therapy และสินค้าสุขภาพจากสมุนไพรไทยที่เข้าร่วมโครงการผ่านทางไลน์ @thaitastetherapy นอกจากนี้ โรงแรมแบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์ ห้องอาหาร พระยา คิทเช่น จัดบุฟเฟต์เมนูอาหารไทยเป็น “ยาที่อร่อยที่สุดในโลก” ตลอดเดือนกันยายนและเดือนตุลาคม เปิดบริการให้ทุกท่านได้ไปอิ่มอร่อยพร้อมเสริมภูมิคุ้มกันร่างกายไปกับอาหารไทยรสกลมกล่อมปรุงจากสมุนไพรไทยต่าง ๆ ที่มีคุณประโยชน์ทางยา อาทิ  ไก่ทอดมะแขว่น เพนเน่น้ำพริกอ่อง

 

นอกจากนี้เพื่อปลุกกระแสให้คนทั่วโลกกินอาหารไทยเป็นยาช่วยรักษาโรคและส่งเสริมสุขภาพ เราจะเปิดตัวแพลตฟอร์ม ThaiTasteTherapy.com เปิดคอร์สสอนทำอาหารไทยเป็นยาผ่านทางออนไลน์เพื่อส่งต่อสูตรอาหารไทยเทสเทอราปี พร้อมส่งออกวัตถุดิบเครื่องปรุงสมุนไพรไทยต่าง ๆ ให้ทั่วโลกสั่งซื้อได้ทางออนไลน์เพื่อไปลองทำกินเองที่บ้านได้อย่างสะดวก”