"หมอธีระ" ย้ำหนัก คลายล็อก 1 ก.ย. เสี่ยงโควิด-19 แพร่ระบาดหนักระลอกใหม่

28 ส.ค. 2564 | 08:42 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ส.ค. 2564 | 15:55 น.

"หมอธีระ" โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว ย้ำหนักต่อเนื่อง การเปิดคลายล็อกร้านอาหาร และอื่นๆ เสี่ยงการแพร่ระบาดหนักระลอกใหม่ เผยตัวเลขผู้ติดเชื้อภูเก็ต ปลายเดือนสิงหาคม เพิ่ม 207 คน และกำลังไต่ระดับสูงขึ้นอีก ขณะที่อเมริกา เปิดให้นั่งกินในร้าน พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอย่างรวดเร็ว

นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว @Thira Woratanarat(ป๊ามี้คีน) ย้ำเตือนต่อเนื่อง และขอยังไม่ให้เปิดคลายล็อก 1 ก.ย. 2564 ด้วยเกรงโควิด -19 แพร่ระบาดหนักขึ้น โดยล่าสุดวันนี้ (28 สิงหาคม 2564) ได้โพสต์ถึงสถานการณ์โควิด -19 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก ตัวเลขทะลุ 216 ล้านไปแล้ว ขณะที่ประเทศไทย จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ วันที่ 27 สิงหาคม 2564 ตัวเลขที่รายงานของทางการ 18,702 คน สูงเป็นอันดับ 10 ของโลก แต่หากรวมจำนวนที่ตรวจด้วย ATK อีก 5,066 คน จะสูงเป็นอันดับ 7 ของโลก

ขณะที่ ภูเก็ต ซึ่งมีการเปิด ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 207 คน และกำลังไต่ระดับขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว โดย นพ.ธีระ ย้ำว่า ต้องไม่ลืมว่านี่คือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นทั้งๆ ที่หลายฝ่ายพยายามวางระบบลดความเสี่ยงไว้ล่วงหน้าแล้ว 

ส่วนสถานการณ์โลก ตัวเลขวันที่ 27 สิงหาคม 2564 ทั่วโลกติดเพิ่ม 691,071 คน รวมแล้วตอนนี้ 216,143,518 คน ตายเพิ่มอีก 9,717 คน ยอดตายรวม 4,497,495 คน 5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุด ยังคงเป็นเช่นเดิมคือ อเมริกา อินเดีย สหราชอาณาจักร อิหร่าน และบราซิล 

อเมริกา ติดเชื้อเพิ่ม 173,819 คน รวม 39,523,850 คน ตายเพิ่ม 1,232 คน ยอดเสียชีวิตรวม 653,315 คน อัตราตาย 1.7% 
อินเดีย ติดเพิ่ม 46,805 คน รวม 32,649,130 คน ตายเพิ่ม 514 คน ยอดเสียชีวิตรวม 437,403 คน อัตราตาย 1.3% 
บราซิล ติดเพิ่ม 27,345 คน รวม 20,703,906 คน ตายเพิ่ม 721 คน ยอดเสียชีวิตรวม 578,326 คน อัตราตาย 2.8%
รัสเซีย ติดเพิ่ม 19,509 คน รวม 6,844,049 คน ตายเพิ่ม 798 คน ยอดเสียชีวิตรวม 180,041 คน อัตราตาย 2.6% 
ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 18,249 คน ยอดรวม 6,711,268 คน ตายเพิ่ม 95 คน ยอดเสียชีวิตรวม 114,083 คน อัตราตาย 1.7%
อันดับ 6-10 เป็น สหราชอาณาจักร ตุรกี อาร์เจนติน่า โคลอมเบีย และสเปน ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่น 


แถบอเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกา เอเชีย หลายต่อหลายประเทศติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น หากรวมทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ พบว่ามีสัดส่วนสูงถึง 89.57% ของจำนวนติดเชื้อใหม่ทั้งหมดต่อวัน

แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลักร้อยถึงหลักพัน 
แถบตะวันออกกลางส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ยกเว้นอิหร่านติดเพิ่มหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง 
เวียดนามติดเพิ่มเกินหมื่นเหมือนฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และญี่ปุ่น

ส่วนเมียนมาร์ และเกาหลีใต้ ติดกันหลักพัน กัมพูชา ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน ฮ่องกง และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ไต้หวันติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

นพ.ธีระ ได้โพสต์ถึงเรื่อง "กล่องทราย" หรือ กล่องทรายเทเลทับบี้ส์ ที่เคยบอกไว้แล้วว่า จะเริ่มสังเกตเห็นผลของกล่องทรายชัดเจนตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม ล่าสุด ภูเก็ตติดเพิ่มอีก 207 คน และกำลังไต่ระดับขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ตรงนี้คือ หลักฐานตอกย้ำถึงสัจธรรมว่า ตราบใดที่มีการระบาดภายในประเทศยังรุนแรง การเปิดให้มีกิจกรรม กิจการ ค้าขาย ท่องเที่ยว ย่อมทำให้เกิดการระบาดมากขึ้นแน่นอน และหากคุมไม่อยู่ จะเปลี่ยนภูมิทัศน์การระบาดของพื้นที่นั้นไปอย่างถาวร ดังที่เห็นในพื้นที่โรงงานที่เคยมีการระบาดหนักมาก่อน แต่ไม่ตัดวงจรการระบาดในขณะนั้น จนทำให้เห็นผลลัพธ์การระบาดหนักและต่อเนื่อง

สำหรับ "มาตรการปลดล็อคตั้งแต่ 1 กันยายน 2564" นพ.ธีระ กล่าวเตือนไว้ล่วงหน้าว่า ยังไม่เห็นที่ใดที่มีการระบาดรุนแรง เป็นหมื่นๆ ต่อวัน กระจายไปทั่ว โดยยังคุมหรือตัดวงจรการระบาดไม่ได้ แล้วมีการปลดล็อคมาตรการควบคุม โดยเมื่อพิจารณาตามหลักวิชาการแพทย์ จะมีโอกาสเกิดการระบาดหนักหน่วงตามมา จะช้าจะเร็วก็รอดูกัน

อเมริกา ประกาศให้นั่งกินในร้าน จากนั้นมีจำนวนติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นใน 41-100 วัน และจำนวนตายสูงขึ้นใน 61-100 วัน แต่ของไทยเรา ปลดล็อคหลายเรื่องพร้อมกัน ทั้งร้านอาหาร สถานศึกษา ร้านนวด ห้าง สวนสาธารณะ ฯลฯ ย่อมมีโอกาสเกิดเร็วขึ้นกว่่าเค้าได้ ดังนั้นจึงต้องช่วยกันระมัดระวัง ป้องกันตัวให้ดี

"หลักในการป้องกันตัวของประชาชน และเจ้าของกิจการ"
พิจารณาให้ดีว่ากิจการ กิจกรรมที่เรากำลังทำอยู่นั้น มีลักษณะต่อไปนี้หรือไม่ หากมี ก็จงตระหนักว่าเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่เชื้อได้ 

  1. "อยู่ใกล้กัน (Closeness)"
  2. "สัมผัสกับผู้อื่น (Contact)"
  3. "พบปะพูดคุย ติดต่อกับคนหลายคนหรือหลายครั้งในแต่ละวัน (Frequency)"
  4. "อยู่กับผู้อื่นในระยะเวลายาวนานกว่า 15 นาที (Duration)"
  5. "มีข่วงที่ไม่ได้ใส่หน้ากากขณะอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนอยู่ (Masking)"
  6. "อยู่ในสถานที่สาธารณะที่เป็นระบบปิด หรือระบายอากาศไม่ดี (Ventilation)"

หากจะลดความเสี่ยงติดเชื้อแพร่เชื้อให้แก่กัน ก็คงต้องหาวิธีปรับให้ปลอดภัยที่สุดเท่าที่ตัวท่านเองจะทำได้ และหากรู้ตัวว่าเสี่ยง ไม่ว่าจะในฐานะผู้ให้บริการ หรือผู้รับบริการ ก็ควรทำการตรวจคัดกรองโรคเป็นระยะ เพื่อตรวจพบได้เร็วและไปรับการดูแลรักษาได้ทัน ไม่แพร่เชื้อต่อไปวงกว้าง

โควิด...ติดไม่ใช่แค่คุณ ติดง่าย ป่วยได้ ตายได้ 

ฉีดวัคซีนแล้วก็ยังติดได้ และเป็นคนแพร่เชื้อไปยังคนใกล้ชิดในบ้านหรือคนอื่นในสังคมได้ แต่โอกาสป่วยและตายจะลดลง