“ดร.เจษฎา” ไขข้อข้องใจ "ยาฟาวิพิราเวียร์” กับ” ฟ้าทะลายโจร" แบบไหนดีกว่า

24 ส.ค. 2564 | 20:46 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ส.ค. 2564 | 03:49 น.
5.4 k

อัพเดทโควิดวันนี้ เปิดศึกสงครามดราม่า ระหว่าง "ยาฟาวิพิราเวียร์” กับ” ฟ้าทะลายโจร" แบบไหนดีกว่า ใช้กับโรคโควิด-19 “ดร.เจษฎา” ไขข้อข้องใจ สรุปแบบม้วนเดียวจบ

รศ. ดร. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์ เฟซบุ๊ก  อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ ระบุ เห็นดราม่าเรื่องนี้เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว ที่กลุ่มผู้สนับสนุนให้ใช้ "ฟ้าทะลายโจร" กับโรค covid-19 ออกมาโจมตียาต้านไวรัส อย่าง "ฟาวิพิราเวียร์" แล้วก็มีคนส่งมาถามหลังไมค์เยอะเลย ว่ายังไงแน่

 

ก็ตอบไปว่า ไม่เห็นจะต้องมาทะเลาะกันเลย! ถ้ามันเป็นความเชื่อเป็นความนิยมในยาสมุนไพรของเขา ก็ไม่เห็นจะต้องมาโจมตีคนอื่นที่ใช้ยาเคมี ก็เลือกเดินหรือเลือกใช้เป็นคนละทางก็ได้แล้วจริงๆ ยาทั้ง 2 ตัวนี้ ก็เป็นที่รู้กันอยู่ว่า "มีผลต่อตับ" ได้ทั้งคู่ จึงมีคำแนะนำว่า ไม่ให้ใช้ร่วมกันอยู่แล้ว

 

สรรพคุณของพวกมันเอง ก็ไปคนละทางกัน ไม่ได้จะทับเส้นทางการรักษากันสักหน่อย อย่าง “ฟ้าทะลายโจร”  ก็มีสรรพคุณแบบสมุนไพรเย็น คือการบรรเทาอาการของโรคหวัด เช่น พวกตัวร้อน เป็นไข้ ปวดเมื่อยร่างกาย จริงๆ น่าจะไปทับผลประโยชน์กับยาพาราเซตามอลมากกว่า

 

ในขณะที่ “ยาฟาวิพิราเวียร์” เป็น "ยาต้านไวรัส แบบ broadband" ซึ่งแม้จะอยู่ในระหว่างการนำมาใช้แบบยาฉุกเฉิน ในกว่า 30 ประเทศ เนื่องจากยังไม่มีการพัฒนายาต้านไวรัสจำเพาะสำหรับเชื้อโรคโควิด ได้สำเร็จ (สำหรับประเทศญี่ปุ่น  ก็มีการทดลองนำมาใช้แบบฉุกเฉินเช่นกัน ส่วนการใช้ทั่วไปอย่างเป็นทางการ จะต้องรอทางจากผลการทดสอบทางคลินิกเฟสที่ 3 ซึ่งคาดว่าจะเสร็จในเดือนตุลาคมนี้)

 

แต่จนถึงวันนี้ ผลงานวิจัยและผลการนำไปใช้จริงในประเทศต่างๆ ออกมาค่อนข้างเยอะแล้วว่า ฟาวิพิราเวียร์มีส่วนช่วยเรื่องการ "ลดการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัส" ได้จริงในระยะแรกของการติดเชื้อ จึงควรจะให้ยานี้โดยเร็วกับผู้ป่วยสีเขียว เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะขยายเป็นสีเหลือง-สีแดง

 

 

ก่อนหน้านี้ เนื่องจากเราต้องนำเข้ายาฟาวิพิราเวียร์ ไม่สามารถผลิตเองได้ จึงใช้อย่างจำกัด ต้องรอให้เกิดอาการปอดอักเสบเสียก่อน ค่อยจ่ายยา ซึ่งไม่ค่อยสอดคล้องกับงานวิจัย ที่พบว่ายานี้ไม่ได้ช่วยให้ผู้ป่วยเหลือง-แดง รอดชีวิตในที่สุด สักเท่าไหร่

แต่ตอนนี้ องค์การเภสัชฯ สามารถผลิตได้แล้ว และทำให้สามารถนำมาใช้ได้อย่างกว้างขวางขึ้น จ่ายยาง่ายขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่กักตัวเองที่บ้าน หรือ home isolation จึงไม่แปลก ที่จะมีหลายๆ คนอย่างเช่น กลุ่มธุรกิจ สภาอุตสาหกรรม หรือแม้แต่คุณสรยุทธ (ช่องสาม) และผมเอง ที่พยายามเรียกร้องให้องค์การเภสัชฯ ยอมให้มีการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ โดยโรงงานยาเอกชนในไทยให้มากขึ้น เพื่อที่เราจะได้มียามากเพียงพอ ไม่ต้องขาดแคลนเหมือนเมื่อก่อน

 

ในขณะที่ข้อดีของฟ้าทะลายโจร คือมีการผลิตกันมากมายเต็มไปหมด ประชาชนสามารถเข้าถึงตัวยาได้โดยง่าย เมื่อสาธารณสุขยังไม่มียาต่างๆ (เช่น ยาต้านไวรัส ยาแก้ปวด ยาลดเสมหะ ฯลฯ) แจกจ่ายให้ประชาชนเพียงพอ การให้ยาสมุนไพรราคาถูก อย่างฟ้าทะลายโจรไปก่อนนั้น ก็เป็นแนวทางที่สามารถทำได้

 

แต่ก็มีข้อเสียเรื่อง ต้องระวังว่า ซื้อมาได้มาตรฐานหรือเปล่า และมีตัวยาสำคัญอยู่ในนั้น มากเพียงพอต่อการช่วยบรรเทาอาการของโรคโควิดหรือไม่ ... แล้วที่สำคัญคือต้องเน้นว่า ใช้กินบรรเทาอาการเมื่อป่วยเป็นโรค covid แล้วเท่านั้น ไม่ใช่กินเพื่อป้องกันโรค เดี๋ยวจะมีปัญหาต่อตับและอวัยวะอื่นๆโดยไม่จำเป็น

 

แต่ที่ปวดหัวจริงๆ คือการเคลมเกินความจริง หรือ overclaim ว่า ฟ้าทะลายโจรสามารถรักษาโรค covid ได้ ซึ่งยังไม่ได้มาจากผลการศึกษาวิจัยทางคลินิก ที่เป็นมาตรฐานเพียงพอ คือ ไม่มีการทดสอบเทียบกับยาหลอก (placebo) และไม่ผ่านการวิเคราะห์ทางสถิติ ว่าได้ผลจริงอย่างมีนัยสำคัญ

 

แต่มักจะเป็นการอ้างเอาจากการนำไปใช้แจกให้คนกินกัน แล้วสำรวจผลว่า มีคนหายจากโรคโควิดกี่คน เอามาคูณเป็นเปอร์เซ็น (อย่างเช่นที่กรมราชทัณฑ์ชอบเอามาอ้าง) ซึ่งเพียงแค่นี้มันเอามาใช้บอกประสิทธิภาพของยาไม่ได้ ที่สำคัญคือ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคโควิด-19 นั้นกว่า 80-90 เปอร์เซ็นต์สามารถหายได้เอง

 

โดยไม่ต้องพึ่งพายาอะไร แม้ว่าจะมีอาการป่วยเกิดขึ้นก็ตาม นั่นเลยเป็นปัญหาใหญ่ ที่ทำให้บรรดายาสมุนไพรสารพัดชนิด วิธีการรักษาสารพัดแบบ หรือแม้แต่น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ (น้ำโฮมีโอพาธี ของ ก.สาธารณสุข เอง) ถูกเอามาแอบอ้างกันอยู่เรื่อย ว่าสามารถใช้รักษาโรคโควิดได้

 

สรุป ผมก็ยังแปลกใจว่า จะมาดราม่าทะเลาะกันทำไม มันมีการขัดผลประโยชน์อะไรกันเหรอ ถึงต้องโจมตีกันแต่ถ้าเป็นผม ผมก็คงซื้อสมุนไพรอย่างฟ้าทะลายโจรเก็บเอาไว้ที่บ้าน  แล้วถ้าป่วยเป็นโควิดขึ้นมา ก็พยายามติดต่อขอยาฟาวิพิราเวียร์ ผ่านระบบ home isolation เพื่อมากินต้านไวรัสในตัว ให้ไวรัสเพิ่มน้อยที่สุดที่ทำได้ โดยกินฟ้าทะลายโจรบรรเทาอาการไปก่อนระหว่างที่รอยาส่วนใครจะนิยมกินฟ้าทะลายโจรอย่างเดียว ก็เชิญได้เลย ไม่ขัดศรัทธากัน