ดันทุรังเปิดประเทศอาจทำให้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 5 แสนคนตาย 7.5 พันคนในสิ้นปี

24 ส.ค. 2564 | 09:18 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ส.ค. 2564 | 16:22 น.

หมอธีระเผยหากยังดันทุรังเปิดประเทศภายใต้สภาพแวดล้อมที่ระบบสนับสนุนด้านต่างๆ เป็นแบบในปัจจุบัน อาจทำให้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 5 แสนคนตาย 7.5 พันคนในสิ้นปี

รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า
สถานการณ์ทั่วโลก 24 สิงหาคม 2564...
ทะลุ 213 ล้านไปแล้ว
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 471,932 คน รวมแล้วตอนนี้ 213,188,365 คน ตายเพิ่มอีก 7,203 คน ยอดตายรวม 4,451,918 คน
5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุด คือ อเมริกา อิหร่าน สหราชอาณาจักร ญึ่ปุ่น และรัสเซีย  
อเมริกา ติดเชื้อเพิ่ม 78,772 คน รวม 38,735,079 คน ตายเพิ่ม 346 คน ยอดเสียชีวิตรวม 645,850 คน อัตราตาย 1.7% 
อินเดีย ติดเพิ่ม 11,359 คน รวม 32,460,328  คน ตายเพิ่ม 266 คน ยอดเสียชีวิตรวม 435,050 คน อัตราตาย 1.3% 
บราซิล ติดเพิ่ม 13,103 คน รวม 20,583,994 คน ตายเพิ่ม 370 คน ยอดเสียชีวิตรวม 574,944 คน อัตราตาย 2.8%
รัสเซีย ติดเพิ่ม 19,454 คน รวม 6,766,541 คน ตายเพิ่ม 776 คน ยอดเสียชีวิตรวม 176,820 คน อัตราตาย 2.6% 
ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 5,166 คน ยอดรวม 6,624,777 คน ตายเพิ่ม 108 คน ยอดเสียชีวิตรวม 113,419 คน อัตราตาย 1.7%
อันดับ 6-10 เป็น สหราชอาณาจักร ตุรกี อาร์เจนติน่า โคลอมเบีย และสเปน ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่น 

แถบอเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกา เอเชีย หลายต่อหลายประเทศติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น 
หากรวมทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ พบว่ามีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 88.67 ของจำนวนติดเชื้อใหม่ทั้งหมดต่อวัน
แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลักร้อยถึงหลักพัน 

แถบตะวันออกกลางส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ยกเว้นอิหร่านติดเพิ่มหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง อีกราว 3-4 วันอิหร่านจะมียอดสะสมแซงสเปนขึ้นเป็นอันดับ 10 ของโลก
เวียดนามติดเพิ่มเกินหมื่นเหมือนฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และญี่ปุ่น
ส่วนเมียนมาร์ อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ ติดกันหลักพัน กัมพูชา ลาว และออสเตรเลีย ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน สิงคโปร์ และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกง และไต้หวันติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
วิเคราะห์สถานการณ์ของไทย
จำนวนติดเชื้อใหม่ และเสียชีวิตของเมื่อวานนี้ สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก
การตั้งหน้าตั้งตามุ่งเป้าจะเปิดประเทศให้ได้ตามกำหนดดังที่เห็นนั้น ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ระบบสนับสนุนด้านต่างๆ เป็นแบบในปัจจุบัน คาดว่าจะทำให้คนไทยตกอยู่ในภาวะที่อาจติดเชื้อราวหลักหมื่นต่อวัน และเสียชีวิตวันละ 50-100 คน

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์
อาจมองดูน้อยในสายตากลุ่มคนตัดสินใจนโยบาย 
แต่หากลองประมาณโดยคร่าว จากตุลาคมถึงสิ้นปี ถ้าเป็นไปตามที่กล่าวไว้ข้างต้น หักลบผลจากการป้องกันตัวของประชาชน ผลบางส่วนจากวัคซีน โอกาสแปรปรวนจากการจำกัดการตรวจคัดกรองและชนิดของวิธีตรวจ และการตกหล่นไม่ได้รายงานการติดเชื้อด้วยสาเหตุต่างๆ อาจมีติดเชื้อเพิ่มอีกอย่างน้อย 500,000 คน และโอกาสเสียชีวิตเพิ่มอีกอย่างน้อย 5,000-7,500 คน
ความสูญเสียจากสุขภาพ และความสูญเสียชีวิตไม่จบอยู่แค่ที่ประมาณไว้ แต่ยังส่งผลต่อครอบครัวของผู้สูญเสีย และผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการระบาดรุนแรงต่อเนื่องยังส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน และระบบเศรษฐกิจโดยรวมทั้งหมดในระยะยาว

มองภาพอนาคต

1. ถัดจากนี้ไป ด้วยนโยบายและมาตรการดังที่ประกาศมา จะมีการติดเชื้อใหม่และการเสียชีวิตใหม่ในแต่ละวันอย่างต่อเนื่องแน่นอน
2. เดิมผลกระทบทางเศรษฐกิจจะหนักและเห็นชัดมากในกลุ่มประชาชนที่ยากจนแต่จะขยายไปถึงกลุ่มคนที่มีฐานะปานกลาง โดยจะเริ่มเห็นชัดขึ้นตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี และจะมีแนวโน้มหนักขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกของ 2565 ถ้าไม่สามารถจัดการสถานการณ์ระบาดและระบบสนับสนุนต่างๆ ให้ดีกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน
3. เป้าหมายหลักในการอยู่รอดของประชาชนแต่ละคนอาจจำเป็นต้องหาทางเข้าถึงวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยตนเอง ผ่านช่องทางต่างๆ ที่ต่างจากระบบบริการภาครัฐ ด้วยข้อจำกัดของนโยบายวัคซีน กระบวนการจัดหา และข้อมูลเชิงวิชาการแพทย์เกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนที่เป็นที่ยอมรับระดับสากล ดังนั้นการเลือกรับวัคซีนของประชาชนจึงต้องยึดหลักเหตุและผล โดยใช้ความรู้ที่ถูกต้อง พิสูจน์ได้ จากแหล่งที่เชื่อถือได้มาประกอบการตัดสินใจปฏิบัติและดูแลตนเอง
4. โควิด-19 ที่ระบาดต่อเนื่องยาวนานและไม่ได้ตัดวงจรการระบาด จะส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขของประเทศ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยกระทบต่อสุขภาพกาย ใจ และสังคม ของบุคลาการที่ทำงานมากขึ้นเรื่อยๆ 
5. ที่น่ากังวลคือ ภาวะระบาดยาวนานต่อเนื่องจะส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ทางสุขภาพของผู้ป่วย และประชาชน โดยจะเห็นจากทั้งตัวผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีภาวะอาการคงค้าง หรือ Long COVID และกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคอื่นๆ ที่ไม่ใช่โควิด-19
ทางออกเดียวที่จะป้องกันได้ คือการเลือกใช้แนวทางแบบนิวซีแลนด์ "Elimination and Vaccination strategies"
สำหรับประชาชนอย่างพวกเราทุกคน ขอให้ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ใส่หน้ากากสองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า สำคัญมาก
สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19) ในประเทศไทยวันที่ 24 สิงหาคม 64 นั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามรายงานจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. พบว่า ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรวม 17,165 ราย มาจาก ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16,973 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 192 ราย  ผู้ป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 1,055,088 ราย  เสียชีวิตเพิ่ม 226 ราย หายป่วยกลับบ้าน 20,059 ราย กำลังรักษา 192,334 ราย หายป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 854,403 ราย