อุปทูตสหรัฐ หวังไทยจัดสรรไฟเซอร์1.5 ล้านโดสอย่างเท่าเทียมไม่เน้น VIP

30 ก.ค. 2564 | 11:13 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ก.ค. 2564 | 18:20 น.

อุปทูตสหรัฐ เผย ไฟเซอร์1.5 ล้านโดส ถึงไทยเมื่อเช้า เตรียมส่งวัคซีน MRNA ล็อต 2 จำนวนเพิ่ม 1ล้านโด๊ส หวังรัฐบาลจัดสรรวัคซีนให้กับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงอย่างเท่าเทียมกันไม่เน้นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ

นายไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐ เปิดเผยว่า วัคซีนไฟเซอร์1.5 ล้านโดส ที่ได้รับบริจาคจากสหรัฐอเมริกาภายใต้นโยบายการแบ่งปันวัคซีน ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้เดินทางมาถึงสนามบิน บินสุวรรณภูมิเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อเช้านี้เวลา 04:00 น. ตามเวลาในประเทศไทย 

 

นอกจากนี้สหรัฐยังมีแผนที่จะบริจาควัคซีน MRNA   ล็อตที่ 2 จำนวน 1 ล้านโด๊ส ตามที่พันโทหญิงลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกแห่งรัฐอิลลินอยส์ ให้สัมมนาผ่านทางระบบออนไลน์เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ระบุยี่ห้อและวันเวลาในการส่งมอบ  ด้วยเล็งเห็นว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของสายพันธ์เดลต้าและบุคลากรทางการแพทย์มีความยากลำบากในการทำงาน

 

ทั้งนี้ ทางสหรัฐไม่ได้มีเงื่อนไขใดๆในการมอบหรือบริจาควัคซีนครั้งนี้เช่นเดียวกับที่บริจาคให้กับกว่า 100 ประเทศทั่วโลก  ดังนั้นในส่วนของการจัดสรรวัคซีนจึงเป็นเรื่องที่ทางรัฐบาลไทยที่จะดูแลจัดการ เพราะทางสถานฑูตไม่มีสิทธิ์เข้าแทรกแซงการทำงานของรัฐบาลไทย เบื้องต้นได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่หลายท่านว่ารัฐบาลไทยจะเน้นจะจัดสรรวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยงเช่น บุคลากรด่านหน้าไม่ว่าจะเป็นหมอ พยาบาล อาสาสมัครที่จะต้องดูแลคนไข้โดยตรง ผู้สูงวัยที่เป็นกลุ่มเปราะบางและได้รับผลกระทบมากที่สุดโดยเฉพาะจากสายพันธ์เดลต้า ซึ่งเห็นได้ว่าปัจจุบัน ICU ต่างๆของก็ใกล้จะเต็มแล้ว

นอกจากนี้สหรัฐยังหวังว่ารัฐบาลไทยจะจัดสรรวัคซีนให้กับชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยอย่างยุติธรรมมีประสิทธิภาพและเท่าเทียมกันไม่เน้นว่าจะต้องให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ เพื่อช่วยหยุดยั้งการแพร่ระบาดให้เร็วที่สุด

 

“เป็นหน้าที่ของรัฐบาลไทยที่จะต้องดูแลเรื่องนี้ เพราะเราไม่มีอำนาจใดๆที่จะเข้าไปช่วยดูแลหรือจัดการใดๆได้ ประชาชนอาจจะต้องติดตามข่าวสารจากสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด เราสนับสนุนให้การจัดสรรให้กับบุคลากรด้านหน้าและสาธารณสุขเป็นหลัก แต่ในการปฏิบัติจริงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลไทยที่ต้องดูแลต่อไป”

 

สำหรับการบริจาควัคซีนไฟเซอร์ให้ประเทศไทยครั้งนี้เป็นไปตามแผนการแบ่งปันวัคซีน 80 ล้านโด๊สเพื่อช่วยหยุดโรคระบาดครั้งนี้ โดยบริจาค 23 ล้านโด๊สสำหรับประเทศในเอเชียเพื่อให้ประชากรในประเทศดังกล่าวสร้างภูมิคุ้มกันและฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว วัคซีนของสหรัฐนั้นเป็นการให้เปล่าโดยไม่มีเงื่อนไข โดยมีวัตถุประสงค์หนึ่งเดียวคือการช่วยชีวิตคน

อย่างไรก็ตามสหรัฐฯ และประเทศไทยมีการประสานความร่วมมือต่างๆในช่วงที่ผ่านมามากมาย นับ 10ล้านเหรียญสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาชุด PPE  เครื่องช่วยหายใจ หน้ากากอนามัยต่างๆ รวมทั้งช่วยประเทศไทยพัฒนาวัคซีน MRNAเป็นของตัวเอง ผ่านความร่วมมือกับหลายๆหน่วยงานของตัวเอง


 

รวมไปถึงการฝึกอบรมชุมชนแถบพรมแดนไทย-เมียนมาร์ในการป้องกันไม่ให้ติดเชื้อหรือควบคุมการแพร่ระบาดและสนับสนุนเวชภัณฑ์ต่างๆว่าจะเป็นหน้ากากอนามัย และอุปกรณ์ช่วยเหลือส่วนบุคคล ซึ่งจะให้การช่วยเหลือดูแลตรงนี้ต่อไป