มีคำถามเข้ามายัง ฐานเศรษฐกิจ ถึงเงื่อนไข ข้อกำหนด เกี่ยวกับการ Work from home (WFH) หรือ ทำงานที่บ้าน ของข้าราชการ บริษัทเอกชน ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ พื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ต้องทำยังไง
หลังจากวันที่ 18 ก.ค. 2564 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ข้อกําหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 28) ซึ่งลงนามโดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
เพื่อยกระดับล็อกดาวน์ เพิ่มความเข้มข้นของมาตรการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 และการบังคับใช้อย่างจริงจังเพิ่มเติมขึ้น ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 20 ก.ค. นี้
ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบ ข้อกำหนดฉบับดังกล่าว พบเงื่อนไขในการ work from home หรือ WFH ของข้าราชการ และเอกชนในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ซึ่งระบุอยู่ในข้อ 9 ดังนี้
การปฏิบัติงานของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ
ให้หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานของรัฐที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด สั่งการให้เจ้าหน้าที่และบุคลากร ในความรับผิดชอบดําเนินมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งขั้นสูงสุดเต็มจํานวน และมุ่งเน้นการปฏิบัติงาน หรือจัดกิจกรรมโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ให้มากที่สุด เพื่อลดจํานวนและจํากัดการเคลื่อนย้ายเดินทาง ของบุคคล
รวมทั้งให้งดการจัดกิจกรรมที่ส่งผลให้เกิดการรวมกลุ่มหรือเคลื่อนที่ของคนจํานวนมาก เช่น การจัดประชุม สัมมนา การจัดสอบ หรือจัดฝึกอบรม
ทั้งนี้ ให้หัวหน้าส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ พิจารณาอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ณ สถานที่ตั้งได้เฉพาะเท่าที่จําเป็นเท่านั้น
การปฏิบัติงาน ณ สถานที่ตั้งของส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ
ให้เปิดให้บริการ เฉพาะภารกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
บริการสาธารณสุข
การควบคุมโรค
กิจการที่เกี่ยวข้องกับระบบสาธารณูปโภค
การจราจร
การบรรเทาสาธารณภัย
การรักษาความสงบเรียบร้อย
หรืองานที่มีกําหนดเวลาปฏิบัติชัดเจน และได้นัดหมายไว้แล้วล่วงหน้า และเป็นการปฏิบัติงานที่สามารถดําเนินการได้ภายใต้มาตรการป้องกันโรค
โดยให้พิจารณาดําเนินการตามความจําเป็นและเหมาะสมที่กําหนดไว้ในข้อกําหนด (ฉบับที่ 27) ลงวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2564
การปฏิบัติงานของภาคเอกชน
ในช่วงระยะเวลานี้ จําเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่และบุคลากร ปฏิบัติตามมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งขั้นสูงสุดเช่นเดียวกัน เพื่อให้บรรดามาตรการต่าง ๆ ที่กําหนดขึ้นเพื่อประโยชน์ส่วนรวมนี้ โดยเฉพาะการลดและจํากัดการเคลื่อนย้ายการเดินทางของบุคคล สามารถเกิดผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการยกระดับล็อกดาวน์ และเคอร์ฟิวล่าสุดในรอบนี้ 13 จังหวัด พื้นที่สีแดงเข้ม ประกอบด้วย
กรุงเทพมหานคร
จังหวัดนครปฐม
จังหวัดนนทบุรี
จังหวัดปทุมธานี
จังหวัดสมุทรปราการ
จังหวัดสมุทรสาคร
จังหวัดฉะเชิงเทรา
จังหวัดชลบุรี
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จังหวัดนราธิวาส
จังหวัดปัตตานี
จังหวัดยะลา
จังหวัดสงขลา