สินเชื่ออิ่มใจ ธนาคารออมสิน เปิดหลักเกณฑ์เงื่อนไขเช็คด่วน

08 ก.ค. 2564 | 08:19 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ก.ค. 2564 | 15:29 น.
28.3 k

สินเชื่ออิ่มใจ ธนาคารออมสิน เปิดหลักเกณฑ์เงื่อนไขช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม หลัง คณะรัฐมตรี หรือ ครม. อนุมัติเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโควิด ลดต้น และ ดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 6 เดือน

สินเชื่ออิ่มใจ ธนาคารออมสิน คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ได้อนุมัติเพื่อเยียวยาผู้ประกอบการร้านอหารหรือเครื่องดื่มที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อโควิด 19

 

หลักเกณฑ์โครงการ มีดังนี้

  • ธนาคารออมสิน สนับสนุนสินเชื่อวงเงินรวม 2,000 ล้านบาท วงเงินสินเชื่อต่อรายสูงสุด 100,000 บาท
  • ไม่ต้องมีหลักประกัน (Clean Loan)
  • คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.99 ต่อปี
  • ระยะเวลากู้ ไม่เกิน 5 ปี
  • ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 งวดแรก
  • ขยายระยะเวลาปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสม แต่ต้องไม่เกิน 5 ปี 

เป้าหมาย

  • รัฐบาลชดเชยความเสียหายที่เกิดจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ NPLs ที่ไม่เกินร้อยละ 50
  • สินเชื่อที่อนุมัติทั้งหมด 2,000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1,000 ล้านบาท

ระยะเวลาโครงการ

  • ตั้งแต่วันนี้จนถึงอนุมัติเต็มวงเงินสินเชื่อหรือถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาโครงการสินเชื่ออิ่มใจ ธนาคารออมสิน

 


 

กลุ่มเป้าหมายผู้ประกอบการร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม

 

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบมาตรการสินเชื่ออิ่มใจ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหาร หรือเครื่องดื่มที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ระลอกใหม่ โดยกลุ่มเป้าหมายสำคัญ คือ  ผู้ประกอบการร้านอาหารหรือเครื่องดื่มที่เป็นร้านจำหน่ายแบบถาวร เช่น ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารที่เปิดในห้องแถวหรืออาคารพาณิชย์ ภัตตาคาร ร้านที่มีลักษณะเป็นบูธ เป็นต้น ซึ่งไม่ใช่เป็นร้านแบบเคลื่อนที่ได้ เช่น หาบเร่ แผงลอย รถเข็น เป็นต้น  ที่มีรายได้ลดลง ให้มีสภาพคล่องเพียงพอ ลดการพึ่งพาสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงหรือสินเชื่อนอกระบบ 


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังคาดว่า มาตรการสินเชื่ออิ่มใจจะช่วยเหลือผู้ประกอบร้านอาหาร/เครื่องดื่มได้ไม่น้อยกว่า 40,000 ราย เฉลี่ยรายละ 50,000 บาท ซึ่งช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการจากที่ผู้บริโภคมีการหลีกเลี่ยงใช้บริการภายในร้านหรือเปลี่ยนพฤติกรรมจากการนั่งรับประทานอาหารที่ร้านเป็นการซื้ออาหารกับ รวมทั้งที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมแบบบูรณาการเร่งด่วนที่กำหนดให้ร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม เปิดดำเนินการเฉพาะนำกลับไปบริโภคที่อื่น ให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้และป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นได้