กทม.แจงแผนจัดสรรเตียงรพ.รับผู้ติดเชื้อโควิด19

28 มิ.ย. 2564 | 15:58 น.

โฆษกกทม.เผยแผนรับมือโควิด19 แจงการบริหารจัดการเตียงในรพ.ต่างๆเพื่อรับผู้ป่วย พร้อมขยายเพิ่ม ย้ำสิ่งสำคัญที่จะแก้ไขวิกฤตครั้งนี้คือ วัคซีนโควิด ยืนยันหากมีเข้ามาจะฉีดให้คนกรุงได้ถึง70%ภายในระยะเวลาเดือนกว่าๆ

ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก "เอิร์ธ พงศกร ขวัญเมือง - Earth Pongsakorn Kwanmuang" เกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่มีผลกับเตียงของรพ.ต่างๆที่ไว้รองรับผู้ป่วย รวมไปถึงได้ชี้แจงถึงการบริหารจัดการเตียงในรพ.เพื่อจะรับกับผู้ป่วยสีเหลือง สีแดง สีเขียว ปิดท้ายด้วยเรื่องวัคซีนโควิด19 ที่จะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการแก้ไขวิกฤตนี้ได้ในระยะยาวนี้ได้ และหากได้รับวัคซีน ศูนย์ทั้ง 25 แห่งที่มีอยู่จะสามารถฉีดให้พี่น้องชาวกทม.ได้ถึง 70% ภายในเดือนกว่าๆ 

 

สำหรับเนื้อหารายละเอียดทั้งหมดของข้อความที่โฆษกกทม.ได้โพสต์มีดังต่อไปนี้


การรับมือกับสถานการณ์วิกฤติของ กทม.
ในตอนนี้สถานการณ์เตียงใน รพ. ของ กทม.อยู่ที่ 96.06% ซึ่งผู้ป่วยเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดง จากเดิมการจัดการด้านเตียงผู้ป่วยโควิดของ ศบค. โรงพยาบาลสังกัด กทม. (10 รพ.) มีหน้ารับผิดชอบรับผู้ป่วยโควิดอาการระดับสีเขียวทั้งหมดจากการตรวจเชิงรุก กทม. จึงได้ขยายจำนวนเตียงที่สามารถรับผู้ป่วยโควิด ได้จาก 1,934 เตียง เป็น 2,946 เตียง 


ในส่วนของผู้ป่วยโควิดระดับอาการสีแดงและสีเหลือง จะเป็นการรับโดย รพ. ใหญ่ ๆ ซึ่งมีศักยภาพสูงในการรักษาผู้ป่วยวิกฤต แต่ตอนนี้สถานการณ์ข้อเท็จจริง รพ.นอกสังกัดกรุงเทพมหานครเหล่านี้ ได้รับผู้ป่วยเต็มศักยภาพแล้ว


โรงพยาบาล กทม.ทั้งหมด จึงต้องเปลี่ยนเป็น การรับผู้ป่วยจากผู้ป่วยอาการสีเขียว เป็นรับผู้ป่วยอาการสีเหลืองและสีแดง โดยในส่วนผู้ป่วยสีเขียวได้ใช้โรงพยาบาลสนามทั้ง 3 แห่ง และโรงพยาบาลโรงแรม (Hospitel) รับแทน รวมทั้งสิ้น 1,346 เตียง 


แต่ด้วยสถานการณ์วิกฤตนี้ ทำให้ กทม. ตั้งแต่ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา กทม. เตรียมพร้อมรับสถานการณ์วิกฤตที่จะเกิดขึ้น  ในส่วนผู้ป่วยสีเขียว กทม. ร่วมกับโรงพยาบาลเอกชน ช่วยกันขยายเตียง จะเปิดให้ได้มากขึ้นอีก 1,694 เตียง ซึ่งบางส่วนได้เปิดเพิ่มขึ้นแล้ว เช่น 

 

  • โรงแรม The Bazaar รัชดาร่วมกับโรงพยาบาลปิยะเวท จำนวน 300 เตียง 
  • โรงแรม Two Three และโรงแรม The green hotel ร่วมกับโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ จำนวน 1,250 เตียง
  • สถาบันพัฒนาข้าราชการ กทม. ร่วมกับ หมอแล๊ป และ รพ. สหวิทยาการมะลิ 144 เตียง  
     

และ กทม. มีแผนจะเพิ่มเตียงเหลืองและแดงให้ได้อีก 526 เตียง ซึ่งในอาทิตย์นี้จะเริ่มเปิดรับผู้ป่วยวิกฤตเหล่านี้ได้มากขึ้น ได้แก่ รพ.สนามกองทัพบก มทบ. 11 เปิดรับผู้ป่วยได้ในวันที่ 2 ก.ค.  ,รพ. สนาม ราชพิพัฒน์ 1 เปิดได้ในวันที่ 10 ก.ค. โดยใช้นวัตกรรม Modular ICU ที่ได้รับความร่วมมือจาก SCG ในการสร้างห้องความดันลบ และร่วมบริจาค และยังได้รับความร่วมมือในการสนับสนุนทีมบุคลากรทางการแพทย์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์เอกชน จาก รพ. ธนบุรี ที่มาช่วยในการบริหารจัดการและดูแลผู้ป่วย ทั้งที่ มทบ. 11 และที่ รพ. สนาม ราชพิพัฒน์ 1 


รวมทั้งสิ้นจะสามารถรับผู้ป่วยโควิดอาการสีเขียว 3,040 เตียง และผู้ป่วยโควิดอาการสีเหลือง-แดงได้  886 เตียง  


การมีเตียงเพิ่มเตียงเหล่านี้ จะสามารถเร่งแก้ไขปัญหาผู้ป่วยตกค้างได้ ซึ่งแม้ปัจจุบันศูนย์เอราวัณจะทำงานอย่างเต็มที่ ส่งไปรับการรักษาทั้งหมด ตั้งแต่การระบาดระลอกเดือนเมษายนมา 15,893 ราย แต่ก็ยังมีการตกค้างอยู่ 


ถึงแม้ว่าสุดท้าย การดำเนินการดังกล่าว จะสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องเตียงและลดการระบาดได้ แต่ก็เป็นการแก้ปัญหาได้ชั่วคราวเหมือนที่เราเคยแก้ไขได้เมื่อการระบาดในครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 
 

แต่วัคซีนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการแก้ไขวิกฤตนี้ได้ในระยะยาว ซึ่ง กทม.ร่วมกับ หอการค้าไทย ภาคเอกชน และ รพ.ต่างๆ ในกทม. เตรียมพร้อมศูนย์ฉีดนอก รพ. 25 ศูนย์ ที่มีศักยภาพในการฉีด 50,000-70,000 คน/วัน 


ซึ่งหากได้รับวัคซีน ศูนย์เหล่านี้สามารถที่จะฉีดให้พี่น้องชาวกทม. ได้ถึง 70% ภายในเดือนกว่าๆ และจะทำให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง