“เปิดเทอม” นักวิชาการ เสนอเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับเด็ก

12 มิ.ย. 2564 | 16:00 น.

นักวิชาการ เสนอเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับเด็ก ส่วนการเปิดเทอมเเนะนำครูให้ความสำคัญกับความรู้ที่หายไปของเด็ก สภาพจิตใจ เเละความปลอดภัยจากโควิด

ดร.ภูมิศรัณย์ ทองเลี่ยมนาค ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์การศึกษา สถาบันวิจัยเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เปิดเผย วันที่ 14 มิถุนายน กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) “ไม่เลื่อนเปิดเทอม 2564” ยืนยันจะเป็นการเปิดเทอมเต็มรูปแบบ โดยให้แต่ละโรงเรียนจัดการเรียนการสอนตามความเหมาะสม 5 รูปแบบ พร้อมกับระบุว่า ขณะนี้ ครู "ฉีดวัคซีนโควิด" แล้ว 70%

โดยให้ความเห็นว่า เป็นไปตามกำหนดที่เหมาะสมกับสถานการณ์โควิดในปัจจุบัน แต่ก็เป็นความท้าทายของคุณครูที่จะต้องบริหารจัดการห้องเรียน 

“ถือว่าโอเค เปิดตามกำหนดการ ส่วนตัวคิดว่าเหมาะกับบริบทของสถานการณ์ ถ้าโรงเรียนไหนพร้อมก็เปิดได้ และก็บริหารจัดการ ดีกว่าเลื่อนออกไป เพราะบางพื้นที่มีการระบาดน้อยก็พร้อมที่จะเปิดเรียน แต่ก็อาจะทำให้ครู ต้องทำงานหนักในแง่ การบริหารจัดการห้องเรียน เพราะอาจจะมีที่มาเรียนและไม่มาและเลือกเรียนออนไลน์ เป็นความท้าทายครูที่ว่าจะทำอย่างไรให้นักเรียนได้รับความรู้” ดร.ภูมิศรัณย์กล่าว ดร.ภูมิศรัณย์ ยังได้ให้ข้อเสนอเพิ่มเติ่มว่า สิ่งที่ต้องการเสนอ มี 3 เรื่องด้วยกัน ดังนี้ 

1 ครูต้องสำรวจเกี่ยวกับความรู้ของนักเรียนที่หายไปในช่วงที่เปิดเทอมไป ว่า ความรู้ของนักเรียนเป็นอย่างไร ต้องซ่อมเสริมในด้านไหนหรือไม่

2 เรื่องสภาพจิตใจของเด็กนักเรียน ซึ่งถือเป็นหลักจิตวิทยา เพราะเด็กบางคนอยู่บ้านนาน ๆ อาจทำให้เกิดความกังวล ความเครียดขึ้นมาได้ ดังนั้นครูจำเป็นต้องติดตามและประเมินอย่างใกล้ชิด เพราะให้ต่างประเทศก็มีกรณีแบบนี้ขึ้น เช่น โควิดทำให้เด็กเป็นโรคซึมเศร้า 

3 เรื่องสุขภาพร่างกาย และความปลอดภัยจากโควิด ต้องยึดหลักการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวด  

4 เร่งฉีดวัคซีนโควิดให้กับเด็กโดยเร่งด่วน เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน ลดการระบาดของโควิด และลดความกังวลใจของผู้ปกครอง 
 

ด้านนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการพร้อมด้วย นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัยอธิบดีกรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุขแถลงข่าวเตรียมความพร้อมในการเปิดภาคเรียนแผนเผชิญเหตุกรณีการป้องกันการแพทยระบาด โควิด-19 ในสถานศึกษา  

นางสาวตรีนุชกล่าวว่า จะมีการเปิดการเรียนการสอนภายใต้การเว้นระยะห่างการที่ได้มีการพูดคุยกับกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับเกี่ยวกับแอพพลิเคชั่นไทยเซฟไทยและไทยสต๊อปโควิด ซึ่งในทุกโรงเรียนต้องมีการประเมินและติดตามผลตรวจสอบภายหลังการเปิดเทอมโดยใช้แอพพลิเคชั่นนี้ โดยจะมีการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความรวดเร็วหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน

ขอให้ผู้ปกครองมั่นใจว่าการเปิดเทอม 14 มิถุนายนนี้จะเป็นไป ด้วยความเรียบร้อย  โดยคาดว่าวัคซีนจะมีการกระจายสู่บุคลากรทางการศึกษาทุกพื้นที่ตามแผนที่รัฐบาลได้จัดสรรมา 

ขณะที่ นายแพทย์สุวรรณชัย เปิดเผย ผลการตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์พบว่ากลุ่มเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีมีอัตราการติดเชื้อ โควิด-19 น้อยกว่าคนที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป และส่วนใหญ่การติดเชื้อก็จากภายนอกมากกว่าภายในโรงเรียน แม้โรงเรียนจะเป็นที่รวมกลุ่มคน อาจทำให้มีผลกระทบในหลายมิติ

จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเปิดการเรียนการสอนผ่านมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ที่จะมีการประเมินก่อน ซึ่งที่ผ่านมามีการนำร่องในสถานศึกษาที่มีเรือนนอนภายในทั้งหมด 4 แห่ง  ได้แก่ โรงเรียนในจังหวัดเชียงใหม่ เพชรบุรี ศรีสะเกษและกระบี่  
 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงว่า สำหรับทางกระทรวงสาธารณสุข จากที่เคยเร่งให้บริการวัคซีนแก่บุคลากรด้านการคมนาคมขนส่ง จากนี้จะเร่งให้บริการครูและบุคลากรด้านการศึกษาด้วย ซึ่งขณะนี้มีการฉีดวัคซีนกลุ่มครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อวันละ 4-5 พันคน

ส่วนการให้บริการวัคซีนแก่เด็ก ปัจจุบันนี้ กำลังดำเนินการนำเข้าวัคซีนของไฟเซอร์ หากอนาคตมีวัคซีนของไฟเซอร์เข้ามาจะฉีดในกลุ่มอายุ 12 ปีขึ้นไป ซึ่งได้ให้กรมควบคุมโรควางแผนประสานความร่วมมือกับทางโรงเรียนเป็นสถานที่ฉีดวัคซีนแทนการนำนักเรียนมายังจุดฉีด ที่สำคัญหากวัคซีนซิโนแวคมีผลการศึกษาฉีดได้ถึง 3 ขวบก็จะขยายการฉีดด้วยเช่นกัน 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง