“อรรถวิชช์” ยื่นหนังสือสธ. ขอปลดล๊อก พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ช่วย “รพ.สนามหลักสี่” เปิดทำงานต่อ

05 มิ.ย. 2564 | 12:00 น.
อัปเดตล่าสุด :05 มิ.ย. 2564 | 12:15 น.

“อรรถวิชช์” ยื่นหนังสือ ขอให้ “สาธารณสุข” ประสาน “มหาดไทย” ปลดล๊อก พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ช่วย “รพ.สนามพลังแผ่นดิน"ในเขตหลักสี่ ของพล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา” เปิดทำงานต่อ ลั่นระเบียบราชการต้องไม่บั่นทอนคนทำงานในยามวิกฤต

5 มิ.ย.2564 เรียกร้องช่วย โรงพยาบาลสนามหลักสี่ เปิดดำเนินการต่อ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ยื่นหนังสือถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผ่านนายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข , ทันตแพทย์ อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และทันตแพทย์หญิง นลินา ตันตินิรามัย ผอ.กองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ

“อรรถวิชช์” ยื่นหนังสือสธ. ขอปลดล๊อก พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ช่วย “รพ.สนามหลักสี่” เปิดทำงานต่อ

กรณี สำนักงานเขตหลักสี่ ปิดประกาศห้ามให้ใช้อาคารโรงพยาบาลสนามพลังแผ่นดิน ของพล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ซึ่งโรงพยาบาลสนามแห่งนี้เปิดได้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข และมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรฐานและความปลอดภัยเรียบร้อย แต่ทางปฏิบัติกลับติดข้อกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ของกระทรวงมหาดไทย ที่กรุงเทพมหานครเป็นผู้ดูแล จึงเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขในฐานะหน่วยงานส่วนหน้า มีหน้าที่ดูแลสถานการณ์โควิด-19 บูรณาการกับกระทรวงมหาดไทย ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นที่ต้องมีโรงพยาบาลสนาม และเสนอให้มหาดไทยออกกฎกระทรวงตามมาตรา 7 อนุ 7 พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ปลดล็อกเงื่อนไขการใช้อาคารชั่วคราวของโรงพยาบาลสนาม

นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า โรงพยาบาลสนามหลักสี่ มีศักยภาพสูงมาก เป็นที่รับผู้ป่วยหนัก รับได้ตั้งแต่เริ่มป่วยจนถึงอาการหนักที่ต้องมีการผ่าตัด ทำได้จบในที่เดียว เรื่องนี้คนทางการแพทย์ก็ทราบดี จึงไม่ควรปล่อยให้ถูกปิดเพียงเพราะกฎระเบียบราชการที่ขาดการบูรณาการกันเอง “มันจะแปลกมากที่ยามวิกฤติ ยามสงคราม เราตั้งเต็นท์ ตั้งอาคารชั่วคราวช่วยคนไม่ได้ เพราะต้องรอขออนุญาต แต่อาคารต่อเติมรุกล้ำกลับมีให้เห็นทั่วประเทศ หากระบบราชการยังล้าหลังขาดบูรณาการแบบนี้ จะตอบโจทย์วิกฤติไม่ได้”

“อรรถวิชช์” ยื่นหนังสือสธ. ขอปลดล๊อก พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ช่วย “รพ.สนามหลักสี่” เปิดทำงานต่อ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง