Work From Home 'สวนดุสิตโพล' ชี้ ช่วยลดเชื้อ แต่ทำค่าน้ำ-ไฟ พุ่ง

16 พ.ค. 2564 | 09:28 น.
อัปเดตล่าสุด :16 พ.ค. 2564 | 16:38 น.

ผลสำรวจสวนดุสิตโพล เผย คนส่วนใหญ่ ทำงานที่บ้านช่วงโควิด (Work From Home) ชี้ ช่วยลดแพร่เชื้อได้- รู้สึกปลอดภัย ขณะ 65.80 ระบุ ส่งผล ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต เพิ่มขึ้น

สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,553 คน เรื่อง ทำงานที่บ้านหรือ Work From Home (WFH) ระหว่างวันที่ 10-13 พฤษภาคม 2564

พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 42.72 ระบุ ทำงานที่บ้านช่วงโควิด-19 รองลงมา ร้อยละ34.45 ระบุ ทำทั้งที่บ้านและที่ทำงาน ร้อยละ 22.83 ระบุ ไม่ได้ทำงานที่บ้าน

เมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อการทำงานที่บ้าน พบว่า ร้อยละ 74.82 ระบุ รู้สึกปลอดภัย/ช่วยลดการแพร่เชื้อโควิด-19 รองลงมา ร้อยละ 48.60 ระบุ เป็นการปฏิบัติตามนโยบายภาครัฐ/ให้ความร่วมมือในการอยู่บ้าน ร้อยละ 44.05 ระบุ มีเวลาให้ตัวเองและครอบครัวมากขึ้น

ทั้งนี้ ประชาชนร้อยละ 88.33 ระบุ ทำงานที่บ้านลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ขณะร้อยละ 65.80 ระบุ ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต

พร้อมกันนี้ มองความสำเร็จของผลงาน จากการทำงานที่บ้าน (Work From Home) สำเร็จประมาณ 70.33% เมื่อถามถึงความชื่นชอบระหว่างทำงาน “ที่ทำงาน”กับ ทำงาน “ที่บ้าน” พบว่า ร้อยละ 37.17 ระบุ ชอบทั้ง 2 แบบพอๆกัน รองลงมา ร้อยละ 36.13 ระบุ ชอบการทำงานที่ทำงานมากกว่า ร้อยละ 18.10 ระบุ ชอบการทำงานที่บ้านมากกว่า

อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 82.66 ระบุ ทำงานที่บ้านช่วยลดการแพร่เชื้อโควิด-19 ได้ รองลงมาร้อยละ 13.14 ระบุ ไม่แน่ใจ ร้อยละ 4.20 ระบุ ช่วยไม่ได้
Work From Home \'สวนดุสิตโพล\' ชี้ ช่วยลดเชื้อ แต่ทำค่าน้ำ-ไฟ พุ่ง

ทั้งนี้ ผศ.ทิพสุดา คิดเลิศ รองผู้อำนวยการสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่า การทำงานที่บ้าน (Work From Home) เป็นแนวคิดช่วยลดต้นทุนทางเศรษฐกิจ ถึงแม้การทำงานที่บ้านจะทำให้มี ค่าสาธารณูปโภคที่เพิ่มมากขึ้น แต่ภาครัฐก็ได้ออกมาตรการเยียวยาเป็นการแบ่งเบาประชาชน ซึ่งการทำงานที่บ้านจะเกิดประสิทธิภาพได้นั้น 

ควรแยกเวลาทำงานและเวลาส่วนตัว (Work Time and Personal Time) เพื่อกำหนดชั่วโมงการทำงานและความสำเร็จของงาน และองค์กรก็ควรกำหนดนโยบาย (Policy) ให้ชัดเจนในเรื่องการทำงานที่บ้านนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ สร้างสำนักงานเสมือน (Virtual Office) สนับสนุนการใช้แพลตฟอร์มหรือแอปพลิ
เคชันในการสื่อสารและทำงานร่วมกันในองค์กร หรือพัฒนารูปแบบการทำงานเป็นแบบไฮบริด (Hybrid model) ที่เน้นการทำงานแบบผสมผสาน พนักงานสามารถเลือกทำงานจากที่บ้านหรือที่สำนักงานได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าการทำงานที่บ้าน “ทำให้เกิดสิ่งใหม่” นั่นคือ “วิถีการทำงานรูปแบบใหม่” และยังเป็นการช่วยลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อีกด้วย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง