“ซูเปอร์โพล”ชี้ประชาชนต้องการผู้นำแก้ปากท้องช่วงโควิด

10 เม.ย. 2564 | 12:09 น.
อัปเดตล่าสุด :10 เม.ย. 2564 | 19:14 น.

“ซูเปอร์โพล”เผยผลสำรวจประชาชนกว่า 90.5% อยากได้ผู้นำแก้ปากท้องช่วงโควิด  91.4% ยี้ผู้นำที่เข้ามากอบโกยประโยชน์ส่วนตัว-ครอบครัว-พวกพ้อง

วันนี้(10 เม.ย.64) สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “โควิดแบบนี้ ผู้นำต้องแบบไหน” จาก 1,475 กลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ สำรวจระหว่างวันที่ 5 - 9 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา

ผลสำรวจพบว่า สิ่งที่ประชาชนต้องการเร่งด่วนจากรัฐบาล

ส่วนใหญ่ ร้อยละ 78.2 อยากให้แก้ปัญหาปากท้องและความยากจน

ร้อยละ 75.8 แก้ปัญหาเศรษฐกิจภาพใหญ่ของประเทศ

และร้อยละ 52.9 ปฏิรูประบบราชการ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐไม่กระตือรือร้น

ร้อยละ 44.4 ระบุ ลดความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรม

และ ร้อยละ 44.1 อยากให้ปฏิรูปการศึกษา

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงผู้นำประเทศที่ประชาชนยี้ ไม่ต้องการ พบว่า

ร้อยละ 91.4 คือ เข้ามากอบโกยผลประโยชน์ส่วนตัว ครอบครัว เครือญาติและพวกพ้อง

รองลงมาร้อยละ 91.1 เป็น นายกฯ ที่หนีคดีคอร์รัปชัน

ร้อยละ 90.1 อยู่เบื้องหลังล้มล้างสถาบันหลักของชาติ

ร้อยละ 89.7 ทุจริตคอร์รัปชัน ร้อยละ 89.2 แทรกแซงองค์กรอิสระ

ส่วนร้อยละ 88.7 ทำให้คนในชาติแตกแยก

ร้อยละ 88.3 ระบุ ขายสมบัติชาติให้ประเทศเพื่อนบ้านและประเทศมหาอำนาจ

และ ร้อยละ 87.8 ระบุ มีผลประโยชน์ทับซ้อน

                                          “ซูเปอร์โพล”ชี้ประชาชนต้องการผู้นำแก้ปากท้องช่วงโควิด

ทั้งนี้ ที่น่าสนใจ คือ ผู้นำประเทศที่ประชาชนต้องการในวิกฤตโควิดแบบนี้ พบว่า

ส่วนใหญ่ร้อยละ 90.5 แก้ปัญหาปากท้องและความยากจนได้

ร้อยละ 90.0 เสียสละ อดทน ยอมแบกภาระไว้กับตนเอง

ร้อยละ 89.9 คุมม็อบอยู่ ไม่สูญเสีย

ร้อยละ 89.8 ใจซื่อ มือสะอาด ซื่อสัตย์ สุจริต

ร้อยละ 89.5 จงรักภักดี ปกป้องสถาบัน

ส่วนร้อยละ 89.2 ฟังเสียงประชาชน

และร้อยละ 89.2 เช่นกันระบุ รู้จักใช้คนเก่ง ร้อยละ 89.0 เด็ดขาด กล้าได้กล้าเสีย

ขณะที่ร้อยละ 88.5 ไม่กอบโกยผลประโยชน์ให้ครอบครัว เครือญาติ และพวกพ้อง และร้อยละ 87.1 ปฏิรูปการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐและราชการ รวดเร็วฉับไว ไม่เกียร์ว่างหลบมุม

ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวยืนยันว่า ผลสำรวจนี้ไม่ได้เกินจริง ซึ่งประชาชนให้ความสนใจปัญหาปากท้อง ความยากจน และความปลอดภัยในยุคโควิดเป็นอันดับแรก อีกทั้ง ยังต้องการผู้นำประเทศที่มีวิสัยทัศน์ ใจซื่อ มือสะอาด เด็ดขาด ปกป้องสถาบัน และรับฟังเสียงประชาชนในการแก้ปัญหา

ขณะที่ อีกด้านหนึ่ง ได้สะท้อนอย่างน่าสนใจถึงผู้นำไม่พึงประสงค์ ที่คดโกง แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม สร้างความแตกแยก มีประโยชน์ทับซ้อนและเอื้อพวกพ้องตนและชนชั้นนำ จนประเทศชาติเสียหาย และประโยชน์ตกไม่ถึงประชาชนรากหญ้า

ขณะเดียวกัน ผู้นำยังเป็นความหวังสำคัญของประชาชนยามวิกฤติ ที่ประชาชนอยากให้ ถือธงนำด้านนโยบายและลงดาบข้าราชการเกียร์ว่าง เร่งแก้ปัญหาที่ถูกสะท้อนผ่านประชาชนในทุกมิติ ขับเคลื่อน มาตรการเยียวยาและเสริมความเข้มแข็งประชาชนครอบคลุมทุกกลุ่มที่กำลังเดือดร้อนในวิกฤตโควิดนี้ โดยติดตามลงให้ถึงชนรากหญ้าที่มีรายได้น้อย

เช่น มาตรการคนละครึ่งควรลงถึงร้านค้าหาบเร่แผงลอย มาตรการทางกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างที่สามารถปลดล็อคให้เงินไหลลงไปที่วิสาหกิจชุมชนร่วม 8 หมื่นแห่งครอบคลุมคนรากหญ้าผู้มีรายได้น้อย การพักชำระหนี้รวมถึงส่งเสริมความเข้มแข็งเกษตรกรเข้าถึงการรวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ที่สำคัญต้องเอาคนดีและเก่งมาใช้งาน เปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่รัฐเกียร์ว่างและขับเคลื่อนระบบราชการที่เดินไม่เต็มสูบที่เป็นปัญหาสำคัญของรัฐแต่ยังสามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้