เช็กด่วน น้ำท่วมภาคใต้ ทางหลวงชนบทรถผ่านไม่ได้ 19 สายทาง

04 ธ.ค. 2563 | 11:48 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ธ.ค. 2563 | 19:05 น.

น้ำท่วมภาคใต้ ทางหลวงชนบท ได้รับผลกระทบ 61 สายทาง สามารถสัญจรผ่านได้ 42 สายทาง และไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 19 สายทาง

กรมทางหลวงชนบท (ทช.) โดยสำนักบำรุงทาง รายงานถึงสถานการณ์อุทกภัยในขณะนี้(4 ธ.ค.63 เวลา 08.30 น.)ว่า มีถนนทางหลวงชนบทที่ประสบอุทกภัยใน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา ปัตตานี ตรัง และพัทลุง โดยได้รับผลกระทบ จำนวน 61 สายทาง สามารถสัญจรผ่านได้ 42 สายทาง และไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 19 สายทาง แบ่งได้ ดังนี้

เช็กด่วน น้ำท่วมภาคใต้ ทางหลวงชนบทรถผ่านไม่ได้ 19 สายทาง

จังหวัดนครศรีธรรมราช มีสายทางที่ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 15 สายทาง ได้แก่

 

- สาย นศ.4002 แยก ทล.4224 (กม.ที่ 19+014) – บ้านทานพอ อ.พิปูน,ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช (ระดับน้ำ 70 ซม. กม.ที่ 0+000-3+800)

 

- สาย นศ.3011 แยก ทล.403 (กม.ที่ 18+750) – บ้านทางพูน อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช (ระดับน้ำ 120 ซม. กม.ที่ 8+000-14+800)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฝนถล่ม สุราษฎร์ธานีท่วม 15 อำเภอ เตือนห้ามขับรถผ่านเส้นทางที่เกิดน้ำหลาก

"น้ำท่วมนครศรีธรรมราช"ครอบคลุมทั้งจังหวัด

พยากรณ์อากาศวันนี้ ไทยตอนบนอากาศเย็นถึงหนาว ภาคใต้มีฝนลดลง

 

- สาย นศ.4021 แยก ทล.4151 (กม.ที่ 2+380) บ้านบางคุ้ง อ.เชียรใหญ่,ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช (ระดับน้ำ 40-55 ซม. กม.ที่ 9+000-11+000 / 15+000-16+600)

 

- สาย นศ.3022 แยก ทล.403 (กม.ที่ 5+066) –บ้านไทรห้อง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช (ระดับน้ำ 50 ซม. กม.ที่ 2+600-3+100)

 

- สาย นศ.2034 แยก ทล.41 (กม.ที่ 313+210) - บ้านก้างปลา อ.ร่อนพิบูลย์,จุฬาภรณ์,ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช (ระดับน้ำ 100 ซม. กม.ที่ 24+300-24+698)

 

- สาย นศ.2038 แยก ทล.41 (กม.ที่ 247+982) – บ้านไสหร้า อ.ถ้ำพรรณรา,ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช (ระดับน้ำ 50 ซม. กม.ที่ 3+700-3+800)

 

- สาย นศ.2041 แยก ทล.41 (กม.ที่ 257+322) – บ้านฉวาง อ.ทุ่งใหญ่,ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช (ระดับน้ำ 80-100 ซม. กม.ที่ 1+600-3+000 / 7+600-15+390)

 

- สาย นศ.4046 แยก ทล.4103 (กม.ที่ 23+050) – บ้านนาพร้าว อ.พระพรหม,ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช (ระดับน้ำ 80 ซม. กม.ที่ 0+000-1+000)

 

- สาย นศ.3051 แยก ทล.403 (กม.ที่ 12+463) – บ้านเขาโร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช (ระดับน้ำ 150 ซม. กม.ที่ 11+200-11+800)

 

- สาย นศ.4070 แยก ทล.4015 (กม.ที่ 9+005) –บ้านท่าใหญ่ อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช (ระดับน้ำ 80 ซม. กม.ที่ 3+200-4+000)

 

- สาย นศ.3074 แยก ทล.408 (กม.ที่ 27+200) – บ้านลานช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ,ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช (ระดับน้ำ 50 ซม. กม.ที่ 3+000-12+000)

 

- สาย นศ.3084 แยก ทล.408 (กม.ที่ 36+600) – บ้านควนชิง อ.เชียรใหญ่,ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช (ระดับน้ำ 50 ซม. กม.ที่ 9+700-10+999 / 11+000-12+100)

 

- สาย นศ.4100 แยก ทล.4110 (กม.ที่ 55+400) – บ้านพร้อมเพียง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช (ระดับน้ำ 80 ซม. กม.ที่ 0+000-2+000)

 

- สาย นศ.4101 แยก ทล.4110 (กม.ที่ 55+600) – บ้านภูเขาหลัก อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช (ระดับน้ำ 80 ซม. กม.ที่ 8+400-9+500)

 

- สาย นศ.3109 แยก ทล.403 (กม.ที่ 4+040) -ถนนเทวบุรี อ.พระพรหม,เมือง จ.นครศรีธรรมราช (ระดับน้ำ 100 ซม. กม.ที่ 5+000-7+948)

จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีสายทางที่ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 1 สายทาง ได้แก่

 

- สาย สฎ.3033 แยก ทล.401 (กม.ที่ 101+200) – บ้านควนกลิ้ง อ.คีรีรัฐนิคม,พุนพิน,เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี (ระดับน้ำ 70 ซม. กม.ที่ 16+300-16+400)

 

จังหวัดปัตตานี มีสายทางที่ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 1 สายทาง ได้แก่

 

- สาย ปน.6083 บ้านบือราแง – บ้านชะเมา อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี (ระดับน้ำ 70 ซม. กม.ที่ 2+000-3+550)

 

จังหวัดพัทลุง มีสายทางที่ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 2 สายทาง ได้แก่

 

- สาย พท.4019 แยก ทล.4048 (กม.ที่ 21+700)-บ้านแหลมโตนด อ.ควนขนุน จ.พัทลุง (ระดับน้ำ 70 ซม. กม.ที่ 0+00-10+400)

 

- สาย พท.5050 ถนนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อ.ควนขนุน,ระโนด จ.พัทลุง (ระดับน้ำ 50-70 ซม. กม.ที่ 0+000-5+000 / 12+000-16+000)

ทั้งนี้ นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่จัดชุดปฏิบัติการ เตรียมเครื่องมือเครื่องจักรเข้าดำเนินการให้ความช่วยเหลือและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมติดตั้งป้ายเตือนและปักเสาหลักขาวแดงเพื่อให้ประชาชนสัญจรด้วยความระมัดระวัง รวมถึงประสานกับหน่วยงานราชการต่าง ๆ ในพื้นที่ เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการช่วยเหลือประชาชน ตลอดจนรายงานข้อมูลสายทางที่ประสบภัยพิบัติให้ผู้บริหารได้รับทราบจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ

 

หากมีกรณีถนน/สะพานขาด ขอให้ดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้น หรือ กรณีต้นไม้หักโค่น ปิดทับ/กีดขวางเส้นทาง ให้รีบนำเครื่องมือเครื่องจักรเข้าดำเนินการทันที เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรผ่านได้ และเมื่อระดับน้ำลดเข้าสู่ภาวะปกติ หากตรวจพบสายทางที่เกิดความเสียหายรุนแรงให้ดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้น เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรไปมาได้ก่อน และเข้าดำเนินการสำรวจ ออกแบบ ประมาณราคา พร้อมภาพถ่ายสภาพความเสียหายหลังน้ำลด เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณในการฟื้นฟูต่อไป