หมอธีระ ห่วง"โควิดเมียนมา"ปะทุรุนแรง แนะเร่งหามาตรการจัดการผู้ฝ่าฝืนลักลอบเข้าเมืองผิดกม. 

30 พ.ย. 2563 | 08:53 น.
อัปเดตล่าสุด :30 พ.ย. 2563 | 15:59 น.

หมอธีระ ห่วง"โควิดเมียนมา"ปะทุรุนแรงขึ้น แนะเร่งหามาตรการจัดการผู้ฝ่าฝืน ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย มองสถานการณ์ทั่วโลกน่าห่วง เพิ่ม 3 ล้านคนทุก 5 วัน

 

30 พ.ย. 63 - รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "สถานการณ์ทั่วโลก 30 พฤศจิกายน 2563... ไม่มีใครที่จะคิดว่าไวรัสโรค COVID-19 จะระบาดบานปลายมาถึงขนาดนี้ เพียงแค่ 11 เดือน ติดเชื้อไปแล้วทะลุ 63 ล้านคน ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งระบาดเร็วขึ้น 

 

"ขณะนี้เพิ่ม 3 ล้านคนทุก 5 วัน" 

 

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 492,162 คน รวมแล้วตอนนี้ 63,013,902 คน ตายเพิ่มอีก 6,941 คน ยอดตายรวม 1,464,153 คน 

 

อเมริกา ติดเพิ่ม 139,092 คน รวม 13,727,734 คน ตายเพิ่มถึง 782 คน ยอดตายรวม 272,936 คน  ต้องจับตาดูจำนวนการติดเชื้อในอเมริกาในสองสัปดาห์ถัดจากนี้ คาดว่าจะมีแนวโน้มสูงขึ้นไปกว่าเดิม เนื่องจากเพิ่งมีการฉลองวันขอบคุณพระเจ้าเมื่อพฤหัสที่ผ่านมา

 

อินเดีย ติดเพิ่ม 41,248 คน รวม 9,432,039 คน

 

บราซิล ติดเพิ่ม 24,468 คน รวม 6,314,740 คน 

 

รัสเซีย ติดเพิ่มอีกถึง 26,683 คน รวม 2,269,316 คน

 

ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 9,784 คน รวม 2,218,483 คน 

 

อันดับ 6-10 ตอนนี้เป็น สเปน สหราชอาณาจักร อิตาลี อาร์เจนตินา และโคลอมเบีย ส่วนใหญ่ติดกันหลายพันถึงหลักหมื่นต่อวัน

 

เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงอิหร่าน ตุรกี บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เมียนมาร์ และมาเลเซีย ติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลายหมื่น

 

หลายต่อหลายประเทศในยุโรป ก็ยังติดกันหลักร้อยถึงหลักพัน 

 

เกาหลีใต้ติดกันเพิ่มหลายร้อยอย่างต่อเนื่อง ฮ่องกงทะลุเกินร้อยต่อวันแล้ว ส่วนจีนติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่สิงคโปร์ เวียดนาม และออสเตรเลีย ยังมีติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

 

...สถานการณ์ในเมียนมา เมื่อวานติดเพิ่มขึ้นอีก 1,509 คน ตายเพิ่มอีก 31 คน ตอนนี้ยอดรวม 89,486 คน ตายไป 1,918 คน อัตราตายตอนนี้ 2.1% ดูจากลักษณะการระบาดแบบนี้ ส่วนตัวแล้วผมคาดว่าเมียนมา จะคล้ายอิหร่าน คูเวต ตุรกี หรือรัสเซีย ที่มีจำนวนการติดเชื้อต่อวันอยู่ในระดับนี้ และจะมีโอกาสปะทุรุนแรงขึ้นได้ คงต้องเอาใจช่วยให้เขาควบคุมโรคให้ได้ และเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

 

พอเรามาวิเคราะห์จำนวนการติดเชื้อต่อวันของทั่วโลก จะพบว่า ตอนนี้คล้ายกับกลางเมษายน และกลางสิงหาคม ที่แนวโน้มเริ่มคงที่ ติดเชื้อระดับ 5-6 แสนคนต่อวัน ตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีนมาใช้เป็นอาวุธเสริม ก็อาจติดเพิ่มในอัตรานี้ไปอีกราว 8-10 สัปดาห์ แล้วมีการปะทุจากศูนย์กลางการระบาดใหม่ขึ้นมาหรือมีเหตุการณ์อื่นที่อาจทำให้รุนแรงขึ้นมาอีกได้ เช่น ไวรัสที่กลายพันธุ์ หรือ superspreading events อื่นๆ ผมประเมินว่า ประเทศที่ต้องจับตาเฝ้าระวังการระบาดมากๆ ในช่วงถัดจากนี้คือ อิหร่าน รัสเซีย ยูเครน ตุรกี ประเทศอื่นแถบยูเรเชีย ซึ่งมีโอกาสจะพัฒนาเป็นศูนย์กลางการระบาดได้หากไม่สามารถจัดการควบคุมได้ในเร็ววันนี้

 

แต่หากวัคซีนได้ผลดีระดับหนึ่ง และได้รับการฉีดอย่างทั่วถึงในประเทศที่มีการระบาดหนักๆ อาจช่วยลดอัตราการติดเชื้อต่อวันได้บ้าง ซึ่งดูจาก timeline ของวัคซีนโลกแล้ว ผมคาดว่าจะเริ่มเห็นผลตอนช่วงมีนาคม 2564 ครับ

 

สำคัญที่สุดตอนนี้คือ ประเทศไทยควรประคับประคองตัวให้รอดพ้นการระบาดซ้ำให้ได้ โดยจัดการควบคุมปัญหาการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย คงต้องมีมาตรการจัดการผู้ฝ่าฝืนอันก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการระบาดซ้ำในสังคม รวมถึงรัฐควรชะลอการหาเงินจากการนำเข้านักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะไม่มีที่ใดในโลกนี้ที่ปลอดภัย การระบาดจะปะทุขึ้นมาได้เสมอ และสัจธรรมคือระบบที่มีมักไม่ไวเพียงพอต่อการตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วกว่าเราจะมีโอกาสได้วัคซีนมาใช้ในประเทศ คาดว่าจะเกินกลางปีหน้า 

 

 

ที่คาดหวังไว้คือ สถานการณ์ของทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่มีการระบาดหนักๆ นั้นจะได้รับการควบคุมได้ดีขึ้นหลังมีวัคซีนมาใช้ หากคุมได้ดังที่หวัง การหายใจหายคอ หาแนวทางกระตุ้น ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ก็มีความเป็นไปได้มากขึ้นกว่าเดิม

 

ขอให้เราทุกคนช่วยกันใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ใส่หน้ากากเสมอ ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตร พบคนน้อยลงสั้นลงเลี่ยงที่แออัดที่ชุมนุมที่อโคจร และคอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบาย ให้หยุดเรียนหยุดงานและรีบไปตรวจรักษา".